อื่นๆ
ผีตามมาจากถ้ำ

ขอเล่าย้อยไปเมื่อประมาณ 13 ปีที่แล้ว
ผมชื่อ กาย เมื่อ 13 ปีที่แล้ว ผมเป็นเด็กชอบอยู่วัด ผมไม่ใช่เด็กวัดนะครับ แค่ชอบมาอยู่ที่วัดเฉยๆ ช่วงเวลานั้นผมอายุเพียง 12 ปี ผมหลงไหลและมีความเชื่อในเรื่องเครื่องรางของขลัง ณ เวลานั้น ผมมีกลุ่มเพื่อนที่มีความชอบเหมือนกันอยู่ 2 คน คือหนุ่มและเบล พวกเรา 3 คน ต่างพากันสงสัยว่า เครื่องรางของขลังมีพลังอำนาจ ทำให้คงกระพันหนังเหนียว มีเสน่ห์สาวรักสาวหลงและทำให้มีโชคมีลาภจริงหรือ? และนี่คือเหตุผลที่เราทั้ง 3 คน ชอบมาอยู่ที่วัด ซึ่งวัดที่พวกผมชอบมากันก็คือ "วัดโคกหล่อ" วัดนี้อยู่แถวบ้านผมเองครับ
ผมและเพื่อนทั้ง 2 คนสืบหาที่มาของพระเครื่องและของขลังต่างๆภายในวัด เพราะสงสัยว่าพระรูปใดเป็นคนสร้างขึ้น ก็ได้เบาะแสมาว่า มีพระรูปหนึ่ง ท่านมีความรู้ ความสามารถทางด้านของการสร้างและปลุกเสกพระเครื่องและของขลังต่างๆ อาคมของท่านเป็นสาย "พุทธะ" หรือเรียกอีกอย่างว่า "สายขาว" พระรูปที่ผมพูดถึงชื่อว่า "หลวงตานัน" พวกผมทั้งสามจึงเข้าไปฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงตานันให้เงื่อนไขกับพวกผมทั้งสามว่า "หากอยากเป็นศิษย์หลวงตาต้องทำแต่ความดี ละชั่ว ห้ามด่าทอพ่อแม่ และทุกคนไม่ว่าจะมาก่อนหรือหลัง หากหลวงตารับเป็นศิษย์ของหลวงตาแล้วห้ามทะเลาะกันเอง แต่หลวงตาคิดว่าพวกเจ้าทั้ง 3 คนยังเด็กเกินไป ตอนนี้หลวงตาคงรับเป็นศิษย์ไม่ได้ พวกเจ้าทั้ง 3 คน ก็เข้ามาช่วยทำงานที่วัด ทำดีเก็บไว้เป็นฐานบุญ อนาคตจะได้มีผลบุญหนุนนำค้ำจุนก่อนเถิด" ผม หนุ่มและเบล ต่างพยักหน้าพร้อมกัน ตอบรับคำของหลวงตานัน ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา หลังเลิกเรียนและวันหยุด พวกเราทั้งสามคนก็ได้เข้ามาช่วยทำงานที่วัดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกวาดลานวัด จัดเตรียมทำความสะอาดโรงฉันท์ จัดเตรียมสถานที่จัดงานวัดในพิธีกรรมต่างๆ เป็นเด็กวัดเดินบิณฑบาตกับหลวงตานันและพระรูปอื่น และงานที่พวกเราชอบที่สุดก็คืองานผสมมวลสารสร้างพระเครื่อง พวกเราได้เรียนรู้สรรพคุณว่านและมวลสารศักดิ์สิทธิ์ หลากหลายชนิด
Advertisement
Advertisement
ขอบคุณรูปภาพจาก : Pixabay พระภิกษุสงฆ์
มีอยู่วันหนึ่งหลวงตานันได้ทำพระเครื่อง ขุนแผนทรงพล ซึ่งตอนนี้ยังขาดแร่มวลสารเหล็กไหลตาน้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญของพระเครื่องขุนแผนทรงพล หลวงตานันชวน ผม หนุ่มและเบลไปยังถ้ำลึกลับในอำเภอปะเหลียน พวกเราต่างตื่นเต้นและตอบรับคำชวนของหลวงตานัน ระหว่างทางไปถ้ำ สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าและภูเขา มีต้นไม้ขนาบข้างริมถนน อากาศเย็นสดชื่อ ซึ่งตอนนี้พวกผมทั้งสามคนกำลังนั่งอยู่ท้ายรถกระบะ ครั้งใกล้ถึงถ้ำป่าเริ่มทึบ ร่มไม้จากต้นไม้สูงบดบังแสงแดด ไม่มีบ้านผู้คนอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ ถนนเป็นถนนดินแดงและเป็นหลุมเป็นบ่อ ทำให้พวกผมที่นั่งอยู่ท้ายกระบะ กระเด้งไปมา พลางโห่ร้องเมื่อรถตกหลุมตกบ่อ
และสุดท้ายรถกระบะก็มาจอดอยู่หน้าถ้ำพวกเราต่างตื่นเต้นรีบกระโดดลงจากรถและเดินสำรวจบริเวณรอบๆ หลังจากนั้นหลวงตานันได้ของอนุญาติเข้าไปทำพิธีเรียกเหล็กไหลกับพระเกจิอาจารย์ที่คอยดูแลถ้ำ หลวงตานันก็เดินเข้าถ้ำไป ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของพวกผม พวกผมทั้ง 3 คน ก็เดินตามหลวงตานันเข้าไป ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยสีขาวนวล น้ำที่ไหลตกลงมาจากหินย้อยส่องประกายระยิบระยับ เสียงน้ำหยดลงบนพื้นถ้ำดัง ติ๋ง ติ๋ง อากาศภายในหนาว หนาวซะจนขนลุก พวกผมทั้ง 3 คนต่างตื่นเต้นที่จะได้เห็นพิธีกรรมเรียกเหล็กไหล แต่สุดท้ายพวกผมก็ต้องผิดหวัง เพราะหลวงตานันไม่ยอมให้พวกผมเข้าถ้ำไปลึกกว่านี้แล้ว ท่านสั่งให้พวกผมรออยู่แถวนี้ก่อน
Advertisement
Advertisement
ระหว่างรอหลวงตานัน ผม หนุ่มและเบลก็เล่นวิ่งไล่จับกันภายในถ้ำพวกเราสนุกกันมาก หัวเราะ หยอกล้อกันเสียงดัง เล่นกันไปซักพัก ฟ้าเริ่มมืดเพราะเมฆฝน ทันใดนั้นฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก ลมพัดแรง น้ำฝนจากนอกถ้ำไหลเข้าถ้ำอย่างรวดเร็ว จากสายธารน้ำฝนเล็กๆหลายสายรวมกันจนกลายเป็นเส้นทางน้ำกว้างประมาณ 1 เมตร และเริ่มไหลเชี่ยวขึ้น เชี่ยวขึ้น ตอนนี้ภายในถ้ำที่พวกผมอยู่มืดมาก มืดซะจนมองไม่เห็นอะไร เห็นแค่แสงริบหรี่อยู่ตรงปากถ้ำอยู่ดีๆหนุ่มก็ตัวสั่นและจับแขนผมอย่างแน่น แน่นจนผมรู้สึกเจ็บ และพยักหน้าให้ผมมองไปบริเวณผนังถ้ำเมื่อผมหันไป ก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ผมเห็นเงาดำนั่งเรียงรายกันอยู่ตรงผนังถ้ำประมาณ 10 ตน เงาดำทุกตนเงยหน้าขึ้นจ้องหน้าของผมด้วยดวงตาโกรธเกลี้ยว ตอนนั้นผมและหนุ่มสติหลุด ทำอะไรไม่ถูก ทำได้แค่จ้องตาเงาดำทั้ง 10 ตน
Advertisement
Advertisement
ขณะนั้นเบลเดินอยู่แถวปากถ้ำวิ่งเข้ามาเพื่อนจะมาหาผมและหนุ่ม แต่เบลเห็นผมและหนุ่มยืนนิ่งไม่ขยับตัวและเหมือนกันลังจ้องอะไรอยู่สักอย่าง เบลจึงหันไปมองตามแนวสายตาของผมและกุ้ง เบลตกใจเมื่อเห็นเงาดำและอุทานขึ้นด้วยคำหยาบคาย เงาดำตนหนึ่งเมื่อได้ยินคำหยาบคายของเบลก็ลุกขึ้นและวิ่งพุ่งเข้าหาเบลทันที เบลตกใจทำอะไรไม่ถูก สิ่งที่ผุดขึ้นมาในหัวเบลตอนนั้นมีแค่หลวงตานัน เบลตะโกนเรียกหลวงตานันจนสุดเสียง ทันใดนั้นเป็นเวลาเดียวกับที่หลวงตาออกมาจากจุดทำพิธีเรียกเหล็กไหลพอดี เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เด็กกำลังพบเจอ ก็ร่ายคาถาและเป่ามนต์คาถาไปยังบริเวณที่เงาดำอยู่ แต่เงาดำที่วิ่งพุ่งตัวเข้าหาเบลยังไม่หายไป มันพุ่งเข้าไปในร่างของเบล จากนั้นเบลก็สลบไป หลวงตานันนำพวกผมออกมาจากถ้ำโดยผมและหนุ่มเป็นคนพยุงตัวเบลที่ไร้สติเดินออกมา ขณะนั้นฝนเริ่มใกล้จะหยุด หลวงตานันรีบให้พวกผมขึ้นรถกระบะเพื่อกลับวัดโคกหล่อ ณ ตอนนั้นเบลก็ยังไม่ได้สติ
ขอบคุณรูปภาพจาก : Pixabay ถ้ำหินงอกหินย้อย
ขณะนี้พวกผมก็มาถึงวัดโคกหล่อ มาถึงยังกุฏิของหลวงตานัน ทันใดนั้นเบลก็ลุกยืนขึ้น และชี้หน้าด่าผมและหนุ่มว่า "พวกเอ็งรบกวนพวกข้า ส่งเสียงดังน่ารำคาญ" หลวงตานันได้ยินก็ถามเบลไปว่า "นี่ใช่เบลหรือเปล่า" เบลตอบทันทีว่า "กูไม่ใช่เบล กูชื่ออินทร์" หลวงตานันพูดต่อว่า "แล้วท่านอินทร์มาเข้าสิงเด็กมันทำไม" เงาดำในตัวเบลตอบกลับด้วยความโกธรว่า "เด็กพวกนี้เข้ามาในที่อยู่ของข้า แล้วส่งเสียงดังน่ารำคาญ พวกข้ากำลังนั่งบำเพ็ญเพียร เพื่อจะได้ไปเกิดใหม่ พวกข้าติดอยู่ในถ้ำนี้มานานเกินพอแล้ว แต่เด็กพวกนี้มันทำให้การบำเพ็ญเพียรนั่งสมาธิของพวกข้าเสียเปล่า ที่ข้าตั้งใจทำมาทั้งหมดกลับศูนย์เปล่า พวกเอ็งต้องรับผิดชอบ" หลวงตานันพูดกับเงาดำ "ถึงโยมอินทร์จะบำเพ็ญมานานสักแค่ไหน หากใจโยมอินทร์ไม่สงบ บุญก็จะไม่เกิด โยมทั้งหมดก็ไม่อาจหลุดพ้น" หลวงตาเทศนาธรรมให้เงาดำที่ชื่ออินทร์ฟังอยู่ประมาณ 30 นาที เงาดำอินทร์ซึ่งอยู่ในร่างของเบลก็คุกเข่าลงกราบ และพูดขึ้นว่า "หลวงตาหลังจากนี้ไปข้าจะบำเพ็ญเพียรเพื่อให้จิตใจสงบ ทำความดีก่อผลบุญ ข้าและเพื่อน ๆของข้าจะได้ไปเกิดใหม่ ขอบคุณหลวงตาที่ชี้ทางสว่างให้ วันนี้หลวงตาพอจะพาข้าไปส่งที่ถ้ำได้ไหม" หลวงตานันพยักหน้า และให้หนุ่มไปเรียกคนขับรถให้เตรียมออกเดินทางไปที่ถ้ำ ในอำเภอปะเหลียน จากนั้นเบลก็สลบไป
เมื่อถึงถ้ำ หลวงตานันให้ผมและหนุ่มจุดธูปจำนวนคนละ 1 ดอก และให้อธิฐาน ขอขมาลาโทษ ต่อเงาดำทั้งหลายที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ แล้วหลวงตานันก็เอามือไปจับหัวของเบล ท่องคาถาสักพักเบลก็สะดุ้งตื่นขึ้นและร้องไห้ออกมา ยกมือไหว้เข้าไปในถ้ำ ก่อนจะออกจากถ้ำหลวงตานันพูดขึ้นว่า "ขอให้พวกโยมทั้งหลายตั้งใจบำเพ็ญ และทำใจให้สงบ ไม่นาน ผลบุญจะหนุนนำพวกโยมเอง" ทันใดนั้นเงาดำปรากฎกายขึ้นภายในถ้ำ และเงาดำทุกตนยืนและค่อยๆพนมมือ และก้มหน้าและโน้มตัวลง ผม หนุ่มและเบลเมื่อเห็นเช่นนั้นก็สะดุ้ง วิ่งหนีสิครับ จากนั้น หลวงตานันและพวกผมก็กลับวัด
ขอบคุณรูปภาพจาก : Pixabay ถ้ำ คน
เมื่อถึงวัดหลวงตานัน ได้สอนพวกผมว่า "ไม่ว่าเราจะไปที่ใด เราต้องเคารพสถานที่นั้น เพราะบางทีมันอาจจะมีสิ่งที่เรามองไม่เห็นซ่อนอยู่ จำเอาไว้ล่ะ" พวกผมต่างพยักหน้า หลังจากนั้นพวกผมไปที่ใดกับหลวงตานัน พวกผมก็ไม่เคยวิ่งเล่นหรือส่งเสียงรบกวนในบริเวณเหล่านั้นอีกเลย
ความคิดเห็น
