อื่นๆ
MBTI 16 ไทป์ เวลาโดนจ้องหน้านานๆในที่สาธารณะ
เวลาที่เราออกไปข้างนอก ออกจากบ้านไปซื้อของ ไปเดินห้าง ไปกินข้าว ไปทำงาน เราก็คงจะเจอคนแปลกๆที่มองหน้าเรานานๆหรือจ้องหน้าเราตรงๆบ้าง ซึ่งบางครั้งคนเราก็แกล้งทำเป็นปล่อยผ่านไม่สนใจ เพราะต้องทำงาน แต่บางคนก็เกิดอารมณ์ตะหงิดๆในใจว่ามองหน้าเราทำไมวะ ก็แล้วแต่นิสัยของคนไปนานาจิตตัง เรามาดูกันดีกว่าว่า MBTI 16 ไทป์ เวลาโดนจ้องหน้านานๆในที่สาธารณะ จะเป็นยังไง
1. ISFP -- เอ๊ะ ทำไมคนๆนี้ถึงมองหน้าเราล่ะ มีอะไรติดหน้าเราหรือเปล่านะ หยิบกระจกมาสำรวจหน้าตัวเอง เพราะความอ่อนไหวง่าย ช่างคิดมาก และขี้กังวลตามแบบฉบับของคนที่ใช้ฟังก์ชันหลักเป็น Fi
- Fi (Introverted Feeling) คือการได้รับพลังงานจากโลกภายในและให้ค่าความนิยมกับความเชื่อ ความรู้สึก และใช้อารมณ์ในการตัดสินใจหรือรับข้อมูลต่างๆ
2. ISTP -- ฟังเพลงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่สนใจว่าใครจะจ้องหรือมองหน้าเรานานๆ เพราะปกติ ISTP เป็นไทป์ที่มองโลกตามความจริง อยู่กับโลกปัจจุบัน โผงผางและตรงไปตรงมา แต่ในบางครั้งก็ไม่ได้สนใจอะไรสายตาคนแปลกหน้ามากขนาดนั้น เพราะรู้สึกว่าเพลงในหูฟังหรือ airpod ที่เล่นอยู่ก็เพราะกว่าด้วย
Advertisement
Advertisement
3. INTP -- สนุกกับการฟังพอดแคสต์โดยไม่สนใจโลกภายนอก โจรจะมา เอเลี่ยนจะบุก ไม่สนใจ เป็นเรื่องปกติของคนที่ใช้ฟังก์ชัน Ti ในการรับข้อมูลอยู่แล้วที่จะวิเคราะห์ข้อมูลต่างด้วยหลักเหตุและผลจากโลกภายใน ยิ่งเป็น Introvert ด้วยแล้ว ความสนใจเป็น 0 เลย
4. INFP -- ทำไมคนแปลกหน้าถึงมองหน้าเราล่ะ ประหม่าและทำตัวไม่ถูกจัง หรือว่าเขาเป็นคนตาบอดหรือเปล่านะ ขยับไปนั่งที่อื่นดีกว่า เพราะเป็นธรรมชาติของการใช้ฟังก์ชัน Fi+Ne ที่มักจะกังวลและคิดมากในเรื่องต่างๆที่ยังไม่เกิดขึ้น และมักจะประหม่าและทำตัวไม่ถูกกับสายตาคนอื่นอยู่แล้ว
- Fi (Introverted Feeling) คือการได้รับพลังงานจากโลกภายในและให้ค่าความนิยมกับความเชื่อ ความรู้สึก และใช้อารมณ์ในการตัดสินใจหรือรับข้อมูลต่างๆ
- Ne (Extraverted Intuitive) คือการตัดสินใจโดยสัญชาตญาณ ความเชื่อ หรือความรู้สึกจากสิ่งที่เกิดขึ้นหรือมองเห็นในโลกภายนอก
Advertisement
Advertisement
5. ENFP -- ชวนคุยเรื่องทั่วไปก่อนจะเริ่มเม้ามอยถึงที่ๆตัวเองกำลังจะไปและของที่กำลังจะวางแผนซื้อ เพราะเป็นธรรมชาติของ ENFP อยู่แล้วที่มีความเป็นมิตร ใจดี เฟรนด์ลี่ มองโลกในแง่ดี และมักจะอยู่นิ่งๆนานๆไม่ค่อยได้
6. INTJ -- จ้องกลับด้วยสายตาที่หงุดหงิด ไม่เป็นมิตร พร้อมคิดในใจด้วยน้ำเสียงเหวี่ยงๆว่าทำแบบนี้มันรุกล้ำและละเมิดความเป็นส่วนตัวนะถ้าอารมณ์ดีก็ปล่อยไปถ้าอารมณ์ไม่ดีก็มองเหวี่ยงๆกลับจนคนๆนั้นหายไปเอง อาจเพราะมีฟังก์ชันหลักในการทำงานเป็น Ni+Te ก็ได้จึงทำให้ชอบอยู่คนเดียวอยู่แล้ว และรู้สึกเหมือนถูกรบกวนเมื่อถูกมองนานๆ
- Ni (Introverted Intuitive) คือการเก็บรวบรวมข้อมูลจากโลกภายในทั้งด้านรูปธรรมและนามธรรมก่อนใช้สัญชาตญาณในการตัดสินใจ
- Te (Extraverted Thinking) การใช้เหตุผล ความคิด การรับข้อมูลจากโลกภายนอก
Advertisement
Advertisement
7. ENTP -- เหลือบมองพร้อมคิดในใจรู้นะว่าแอบมองอยู่ ทำสีหน้ากวนๆหยอกๆกลับไป เพราะเป็นธรรมชาติของ ENTP อยู่แล้วที่มักจะชอบแกล้ง ชอบแหย่คนอื่นๆเพื่อควาสนุกสนานของตัวเอง
8. INFJ -- ทำเป็นมองไม่เห็นและลุกไปนั่งที่อื่น ถ้าโดนตามค่อยหายตัวไป ก็เป็นเรื่องปกติของ INFJ อีก ที่มักจะมีความตระหนักหรือรับรู้ในสิ่งที่จะเกิดขึ้นในจิตใจของผู้คน หรือความจริงก่อนล่วงหน้า เหมือนลางบอกเหตุ แต่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยเหตุผลได้ว่าทำไมถึงเกิดขึ้น INFJ คงจะรู้สึกว่านี้ไม่ใช่สถานการณ์ปกติจึงเลือกที่จะหลบเหลี่ยงตัวเองออกไปเงียบๆแทน
9. ISTJ -- มองกลับนิ่งๆด้วยดวงตากลมๆโตๆจนคนแปลกหน้ายกมือถือขึ้นมาเล่นแทน อาจเพราะการใช้ฟังก์ชันหลักเป็น Si+Te ก็ได้ จึงทำให้มองโลกในเหตุการณ์ปัจจุบัน และตอบสนองกลับไปในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าแบบทันทีทันใด และรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าแบบฉับหลัน
- Si (Introverted Sensing) คือการรวบรวมข้อมูลจากสิ่งที่ตัวเองเคยเจอผ่านประสาทสัมผัสที่ 5 ก่อนจะประมวลผลจากโลกภายใน
- Te (Extraverted Thinking) การใช้เหตุผล ความคิด การรับข้อมูลจากโลกภายนอก
10. ESFJ -- ถามคนแปลกหน้าว่าจะลงที่ไหน พร้อมกับชวนคุยถึงเรื่องใกล้ๆตัวและแอบนินทาคนที่รู้จักในชีวิตจริงให้ฟังด้วย ก็เป็นเรื่องปกติของ ESFJ อีกที่มีนิสัยอ่อนไหวง่าย ช่างเห็นอกเห็นใจ และมองโลกตามความจริง ESFJ อาจจะคิดว่า คนเราก็มองหน้ากันในที่สาธารณะเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เขาอาจจะอยากเป็นเพื่อนกับเรา ชวนคุยดูดีกว่า
11. ENFJ -- ชวนคนแปลกหน้าคุยอย่างเป็นมิตร ถามเรื่องดินลมฟ้าอากาศทั่วๆไป เพราะความใจดี เป็นมิตร เฟรนด์ลี่ และความเป็น Extrovert ในตัวด้วย เลยทำให้ชวนคนแปลกหน้าที่นั่งข้างๆกันหรือยืนใกล้ๆกันคุยได้อย่างไม่คิดอะไรมาก
12. ENTJ -- มองกลับและถามกลับไปตรงๆว่ามองอะไรอยู่ มองหน้าเราทำไม ก่อนที่คนแปลกหน้าจะแก้ตัวอะไรก็ว่าไป เป็นเรื่องปกติของคนที่ใช้ฟังก์ชัน Te+Ni เป็นหลักที่จะมองวิธีแก้ปัญหาอย่างหลักแหลมและชาญฉลาดรวมถึงรอบคอบไว้ก่อน
- Te (Extraverted Thinking) การใช้เหตุผล ความคิด การรับข้อมูลจากโลกภายนอก
- Ni (Introverted Intuitive) คือการเก็บรวบรวมข้อมูลจากโลกภายในทั้งด้านรูปธรรมและนามธรรมก่อนใช้สัญชาตญาณในการตัดสินใจ
13.ISFJ -- แกล้งหัวเราะแก้เก้อ รู้สึกประหม่า เขินอาย และทำตัวไม่ถูก เป็นเรื่องปกติของคนที่ใช้ Si+Fe เป็นฟังก์ชันหลักในการทำงาน ที่แม้จะประหม่าและกังวลแต่ก็จะนึกถึงความรู้สึกและจิตใจของผู้อื่นไปด้วย
- Si (Introverted Sensing) คือการรวบรวมข้อมูลจากสิ่งที่ตัวเองเคยเจอผ่านประสาทสัมผัสที่ 5 ก่อนจะประมวลผลจากโลกภายใน
- Fe (Extraverted Feeling) คือการได้รับพลังงานจากโลกภายนอกและให้ค่าความนิยมกับความเชื่อ ความรู้สึก และใช้อารมณ์ในการตัดสินใจหรือรับข้อมูลต่างๆ
14. ESFP -- ถามว่าลงสถานีไหนหรือไปทางไหนเพื่อที่จะชวนไปเที่ยวหรือไปกินข้าวด้วยกัน เป็นเรื่องปกติของคนที่ใช้ฟังก์ชัน Se+Fi ในการทำงานหลักที่ทำให้เป็นมิตร เฟรนด์ลี่ เข้ากับคนอื่นได้ง่าย และสบายใจเมื่อได้พูดคุยกับคนอื่น แม้เป็นคนที่ไม่เคยเจอหน้าหรือรู้จักกันเลยก็ตาม
- Se (Extraverted Sensing) คือการรวบรวมข้อมูลจากสิ่งที่ตัวเองเคยเจอผ่านประสาทสัมผัสที่ 5 ก่อนจะประมวลผลจากโลกภายนอก
- Fi (Introverted Feeling) คือการได้รับพลังงานจากโลกภายในและให้ค่าความนิยมกับความเชื่อ ความรู้สึก และใช้อารมณ์ในการตัดสินใจหรือรับข้อมูลต่างๆ
15. ESTP -- เหลือบมองกลับ ถ้าถูกชะตาก็พยักหน้าทักอีกฝ่ายก่อนเหมือนเป็นเพื่อนที่รู้จักและสนิทมานานก่อนชวนคุย แต่ถ้าไม่ถูกชะตาก็จะไม่สนใจ เพราะเป็นเรื่องปกติของคนที่ใช้ฟังก์ชัน Se+Ti เป็นหลักในการทำงาน ที่มักจะเป็นคนที่ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมและผู้คนได้ไว แต่ก็มีนิสัยที่เอาแต่ใจบางอย่างและเดาใจได้ยากเหมือนกันบางครั้ง
- Se (Extraverted Sensing) คือการรวบรวมข้อมูลจากสิ่งที่ตัวเองเคยเจอผ่านประสาทสัมผัสที่ 5 ก่อนจะประมวลผลจากโลกภายนอก
- Ti (Intraverted Thinking) การใช้เหตุผล ความคิด การรับข้อมูลจากโลกภายใน
16. ESTJ -- หันไปมองกลับตรงๆก่อนจะถามว่ามองอะไร ไม่เคยเห็นคนเหรอ ทำไมทำตัวไม่มีมารยาทเลย ก่อนที่คนโดนมองจะขอโทษและบอกว่าแค่มองอย่างอื่นน่ะ อย่าเข้าใจผิดนะ เพราะการใช้ฟังก์ชันหลักเป็น Te+Si ในการรับข้อมูลจึงทำให้มีการตอบสนองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าไปแบบทันทีทันใด แถมยังชอบควบคุมสถานการณ์เป็นอย่างมาก
- Te (Extraverted Thinking) การใช้เหตุผล ความคิด การรับข้อมูลจากโลกภายนอก
- Si (Introverted Sensing) คือการรวบรวมข้อมูลจากสิ่งที่ตัวเองเคยเจอผ่านประสาทสัมผัสที่ 5 ก่อนจะประมวลผลจากโลกภายใน
ในฐานะที่ผู้เขียนเป็น INFP นะ ถ้ามีคนมองหน้าผู้เขียนแบบจ้องนานๆในที่สาธารณะ ซึ่งถ้าไม่ใช่การจ้องแบบน่าเกลียดมากเกินไปผู้เขียนก็จะไม่ได้คิดอะไรและแกล้งทำเป็นไม่สนใจ แต่ถ้าเป็นการมองแบบมองนานมากๆ ผู้เขียนก็อาจจะมองหน้ากลับแบบเหวี่ยงๆไม่ต่างอะไรกับ INTJ จ้า เพราะผู้เขียนไม่ชอบการโดนจ้องหน้านานๆในที่สาธารณะอยู่แล้ว และแอบคิดว่าพฤติกรรมแบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่มีมารยาทเลย
แหล่งอ้างอิงข้อมูลเพิ่มเติมที่ 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 6 / 7 / 8 / 9 / 10 / 11 / 12 / 13 / 14 / 15 / 16
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :
- เมื่อ MBTI 16 ไทป์ ตกหลุมรักคนไทป์เดียวกับตัวเอง
- ถ้า MBTI 16 ไทป์ เป็นเพื่อนสนิทเรา
- MBTI 16 ไทป์ กับ กีฬาที่เหมาะสมกับไทป์ตัวเอง
- MBTI 16 ไทป์ กับ มุมลับๆที่ซ่อนอยู่
- เมื่อ MBTI 16 ไทป์ รู้สึกเหนื่อยมากๆ
ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก / Canva
รูปภาพประกอบที่ 1 / 2 / 4 โดย aitoff / 3 โดย klimkin / pixabay
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
ความคิดเห็น