ไลฟ์แฮ็ก

รีวิวการจดโน้ตแบบ " Cornell note " จดบันทึกทั้งที ต้องมีประสิทธิภาพ

897
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
รีวิวการจดโน้ตแบบ " Cornell note " จดบันทึกทั้งที ต้องมีประสิทธิภาพ

ในการเรียนที่ต้องมีการจดเลคเชอร์ หรือการทำงานที่ต้องมีการจดบันทึกจดโน้ตต่างๆ เชื่อว่าหลายคนต้องพบปัญหาจดไม่ทัน จดมาแล้วอ่านไม่รู้เรื่อง จดข้อมูลมากๆ แล้วสับสนมากขึ้นไปอีก  ต้องพลาดหรือหลงลืมเนื้อหาสำคัญไปเพราะไม่รู้ว่าจดไว้ตรงไหน  ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดขึ้นกับผู้เขียนมาแล้วทั้งนั้นค่ะ   แต่พอได้พบระบบการจดบันทึกที่มีประสิทธิภาพก็ทำให้ปัญหาเหล่านี้หมดไป   วันนี้จึงอยากมาแนะนำเทคนิคการจดบันทึก นั่นคือ การจดโน้ตหรือจดบันทึกแบบ " Cornell note "

การจดโน๊ตแบบ Cornell note

" Cornell note " เป็นวิธีการจดบันทึกที่ถูกคิดค้นโดย Walter Pauk ซึ่งเป็นหัวหน้าศูนย์การเรียนรู้ประจำมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ [ Cornell University ]  วิธีการจดบันทึกนี้จึงได้ชื่อว่า " Cornell note " ตามชื่อมหาวิทยาลัย  และวิธีการนี้ได้รับการยอมรับและใช้อย่างแพร่หลาย เพราะมีผลการศึกษาวิจัยสนับสนุนว่าเป็นวิธีที่ทำให้การเรียนมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Advertisement

Advertisement

วิธีการจดบันทึกแบบ Cornell note

เริ่มต้นด้วยใช้กระดาษ หรือสมุดธรรมดา แบ่งพื้นที่ใน 1 หน้ากระดาษดังนี้

ส่วนบนสุด หรือ หัวกระดาษ : เขียนชื่อหัวข้อที่เราจะจดบันทึก

*ควรระบุวันที่ด้วยหากเป็นการเลคเชอร์หรือจดบันทึกการประชุม

การจดโน๊ตแบบ Cornell note

จากนั้นแบ่งกระดาษเป็น 3 ส่วนตามภาพ [ หมายเลข 1,2,3 ]  ให้ขีดเส้นแบ่งพื้นที่ให้ชัดเจน

ในแต่ละส่วนจะมีหน้าที่ของตัวเอง คือ

ส่วนที่ 1 คือ Cue Column

  • เป็นส่วนที่เป็นแถบแนวตั้ง  อยู่ริมหน้ากระดาษ
  • ส่วนนี้จะบันทึกคำที่เป็น Keyword,คำถามสำคัญและสิ่งที่ต้องการเน้น
  • ส่วนนี้จะทำให้เรารู้คร่าวๆ ว่าโน้ตหน้านี้บันทึกเรื่องสำคัญๆ อะไรบ้าง
  • ทำให้การทบทวนเนื้อหาเป็นไปได้รวดเร็ว ตรงจุด และเป็นระบบ

ส่วนที่ 2 คือ Notes

  • เป็นส่วนที่อยู่ตรงกลางที่มีพื้นที่กว้างสุด
  • สำหรับบันทึกรายละเอียดของเนื้อหาทั้งหมด
  • แนะนำว่าบันทึกเป็นข้อความสั้นๆ ที่เชื่อมโยงกันได้ และเข้าใจง่าย
  • อาจใช้สีและสัญลักษณ์ช่วยในการบันทึก
  • ไม่จำเป็นต้องบันทึกทุกคำหรือบันทึกเป็นประโยคยาวๆ

Advertisement

Advertisement

ส่วนที่ 3 คือ Summary

  • เป็นส่วนที่อยู่ล่างสุดของหน้ากระดาษ
  • สำหรับเขียนสรุปเนื้อหาสำคัญไอเดียที่เกิดขึ้น หรือผลการวิเคราะห์เนื้อหาในส่วน Notes

การจดโน๊ตแบบ Cornell note

ประสบการณ์การใช้เทคนิคจดบันทึกแบบ " Cornell note "

สำหรับผู้เขียนได้ใช้การจดโน้ตแบบ " Cornell note " ทั้งในการเรียนและการทำงาน พบว่ามีประโยชน์มาก  ทำให้การบันทึกมีประสิทธิภาพมากขึ้นจริงๆ ซึ่งช่วงแรกๆ อาจจะยังไม่ชินกับหลักการที่กำหนดมา แต่พอได้ใช้บ่อย ๆ ก็รู้สึกว่าหลักการนี้ทำให้การจดโน้ตของเราง่ายและเป็นระบบขึ้น   นอกจากนี้ก็มีประโยชน์อื่นๆที่ได้รับจากการจดบันทึกแบบ Cornell note ที่ได้รวบรวมมาจากการใช้งานจริง

  • ช่วยให้การจดบันทึกเป็นระบบ เป็นหมวดหมู่  สะดวกและง่ายต่อการทบทวน
  • สามารถโฟกัสใจความสำคัญของเนื้อหาได้ จากการที่เราเขียน keyword ไว้ที่ clue column
  • การเขียนสรุปในส่วน summary ช่วยฝึกการวิเคราะห์หา main idea จากเนื้อหาที่ได้บันทึก
  • ทำให้มองเห็นภาพรวมของเนื้อหา เพราะทุกอย่างอยู่ในกระดาษ 1 แผ่น

Advertisement

Advertisement

ตัวอย่างการจดบันทึกด้วยวิธี " Cornell note "

ภาพข้างล่างนี้ ผู้เขียนได้สรุปย่อเนื้อหาของบทความ " วิธีสังเกต "ไฝ" หรือ "มะเร็งผิวหนัง" กันนะ? "  ในรูปแบบของ Cornell note มาเป็นตัวอย่างให้ได้ดูเพื่อจะได้เข้าใจมากยิ่งขึ้นนะคะ

การจดโน๊ตแบบ Cornell note

หวังว่าจะได้รับประโยชน์จากบทความนี้นะคะ :)

แนะนำบทความอื่นๆจากผู้เขียนที่ช่วยเสริมการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

Credit

อัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน  App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์