ประสบการณ์กินนอนแบบรด.หญิงปี1-3

ชาติ เกียรติ วินัย กล้าหาญ อดทน รด. สู้ตาย เอี้ย.......

วันนี้ผู้เขียนจะมาขอแชร์ประสบการณ์การเรียนวิชานักศึกษาวิชาทหารหญิงหรือที่รู้จักกันในนามว่า รด. ตั้งแต่การสอบคัดเลือก การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นดันพื้น ลุก-นั่ง หรือ วิ่ง (เช็คชื่อ ตัดผม กินขนม กลับบ้าน)...ไม่ใช่แล้ว เนื่องด้วยผู้เขียนเห็นมีแต่คนแชร์ประสบการณ์ การเป็น รด.ชาย วันนี้ขอถือโอกาสเล่าเรื่องการเป็น รด.หญิงกันบ้างนะจ๊ะ ความป่วนมันไม่ได้มีแค่ผู้ชาย ผู้หญิงก็ป่วนได้  ครั้งหนึ่งในชีวิตของผู้หญิงก็ควรมีอะไรที่มันท้าทายบ้างผู้เขียนเป็นผู้หญิงขาลุยชอบอะไรที่มันท้าทาย และน้อง ๆ หนู ๆ คนไหนอยากรู้แบบแนวทางการเตรียมตัวต่าง ๆ ก่อนที่จะเป็น นศท ในบทความนี้มีความรู้ให้นะจ๊ะ

​​​​​ฝึกร่างกาย

ฝึกร่างกายเพื่ออะไรกันต้องฝึกด้วยเหรอ ? ฝึกค่ะ อย่างที่บอกไปข้างต้น เราต้องทำการทดสอบร่างกายก่อนที่จะเป็น รด.เพื่อเป็นการเช็คร่างกายว่าเรามีความพร้อมแค่ไหน การเรียน รด. ก็เปรียบเสมือนการเป็นทหารต้องมีความแข็งแกร่งทั้งในด้านของร่างกายจิตใจการมีวินัยเราต้องทนแดดทนร้อน เพราะในการฝึกแต่ละครั้งอย่าคิดว่าเป็นผู้หญิงแล้วจะได้อยู่ในร่ม ฝันไปเลย ใครที่ไม่พร้อมโดนแดดใครที่ไม่พร้อมทนต่อฝนใครที่ไม่พร้อมทนต่อฝุ่น แนะนำขอให้ผ่านไปเลยค่ะ

---

ผ่านแล้ว

เมื่อทำการทดสอบผ่านแล้วจะถูกคัดแยกเพื่อไปถ่ายรูปทำบัตรจ่ายค่าหนังสือและกลับบ้านกว่าจะหมดวันเรียกได้ว่าลากเลือดยอมรับว่าเหนื่อยมาก ๆ ค่ะ แต่มันทำให้เรารู้ว่าความมานะอดทนที่เราได้ฝึกฝนมาจะส่งผลต่อเราให้เราประสบความสำเร็จในทุกด้านไม่ใช่แค่ในการทดสอบร่างกายในครั้งนี้แต่รวมไปถึงการเติบโตการทำงานหรือแม้กระทั่งการใช้ชีวิตในสังคม

ในส่วนการเรียนของปี 1 นั้นจะเรียนที่ศูนย์ฝึก รด.ศสร. ที่วิภาวดีรังสิตค่ะ และส่วนใหญ่จะเน้นด้านวิชาการตลอดทั้งเทอมจะเน้นตามหนังสือเรียนที่ได้รับไปค่ะ ปี 1 ไม่ค่อยจะมีอะไรมาก พอเรียนครบเทอมก็ทำการสอบตามเนื้อหาที่เรียนไปค่ะ

ปีที่ 2

ย้ายไปกรมทหารราบ 11 เราจะไม่ได้เรียนที่ศูนย์ใหญ่แต่จะต้องกระจายออกไปตามค่ายทหารต่าง ๆ ผู้เขียนได้ไปเรียนที่กรมทหารราบ 11 บางเขน แถว ๆ วัดพระศรีมหาธาตุ ปีที่ 2 จะเน้นการเข้าแถวการทดสอบร่างกายอีกรอบว่ายังมีความพร้อมอยู่ไหมเพราะเมื่อเข้าปีที่ 3 ก็จะต้องไปเข้าค่ายที่เขาชนกันอันเป็นที่นักศึกษาส่วนใหญ่ใฝ่ฝันอยากจะไปเพราะได้ยินกันว่า สนุก มัน นอนกลางดินกินกลางทราย ปี 2 นี้ส่วนที่เพิ่มมาจากการเข้าแถวก็คือการเรียนรู้การใช้ปืนการเดินสวนสนาม และอื่น ๆ

นับก้าวเดินเข้ากรมทหาร

นับก้าวเป็นยังไง ? นับก้าวคือการใช้ประโยคเพื่อให้เกิดความพร้อมเพรียงแทนการใช้คำว่าซ้ายขวาซ้าย คนคุมแถวจะอยู่ทางด้านขวามือส่วนที่เหลือจะเข้าแถวตอนเดียวเดินไปและนับก้าวไป ประโยคนับก้าวมีดังนี้คะ

นับก้าว 1 2 นับต่อไป 3 4 1 2 3 4 1 ชาติ เกียรติ วินัย กล้าหาญอดทน รด. สู้ตาย เอี้ย นับต่อไปจนเดินไปถึงจุดหมายจะทำให้เกิดความพร้อมเพรียง เพราะเมื่อเริ่มนับก้าวทุกประโยคจะลงที่ขาซ้ายเสมอ ทำให้การเดินเป็นไปแบบมีระเบียบ และสวยงาม และก่อนเข้ากรมทุกครั้งจะมีการตรวจเครื่องแบบไม่ว่าจะเป็นรองเท้า หัวเข็มขัด หมวก และ ทรงผมส่วนใหญ่ผู้ชายจะโดนลงโทษบ่อยค่ะแห่ะ ๆ

การเรียนยิงปืนพื้นฐาน

การเรียนยิงปืนพื้นฐานนี้จะเน้นไปที่การเข้าจู่โจมแบบหมู่ การตั้งแถวเป็นแนวให้รัดกุม การตั้งรับระวังคนซุ่มยิง ถือปืนและหมอบคลานเวลาเจอลวดหนาม ท่าถือปืนที่ถูกต้อง ส่วนปืนที่ใช้ฝึกนั้นเป็นปืนไม้ที่ปลดประจำการแล้วครูฝึกยังบอกอีกว่าเป็นปืนตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อันนี้อำกันหรือเปล่าไม่รู้ค่ะ รู้แต่ว่าตัวปืนแลดูเก่าขลังดีค่ะ แถมหนักมากด้วย

เดินสวนสนาม

จะเป็นการซ้อมเตรียมความพร้อมเนื่องในพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของนักศึกษาวิชาทหาร จะมีการคัดเลือกตัวแทนแต่ละโรงเรียน สำหรับพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนาม มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักศึกษา-วิชาทหารได้กระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อหน้าผู้บังคับบัญชาระดับสูง และประชาชนทั้งหลายว่าจะยึดถืออุดมการณ์และดำรงไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ตลอดจนเป็นเยาวชน ที่เป็นตัวอย่างในการสร้างวินัยให้แก่คนในชาติ พร้อมที่จะปกป้องอธิปไตย และร่วมพัฒนาชาติไทยให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป แหม่ยาวเลยอินไปนิดแห่ะ ๆ

การทดสอบร่างกายอีกครั้ง

การทดสอบร่างกายรอบสองนี้เป็นการเช็คร่างกายเพื่อเตรียมพร้อมไปเข้าค่ายที่เขาชนไก่ร่างกายเมื่อหยุดพักไปนานจะทำให้ไม่มีความฟิตเหมือนเดิม ในทุก ๆ เช้าครูฝึกจะพาออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความฟิต และเพิ่มประสิทธิภาพของร่างกายให้มีความแข็งแรงอยู่เสมอ และทำการทดสอบร่างกายเพื่อวัดว่าผ่านเกณฑ์หรือไม่ถ้าไม่ผ่านก็ต้องไปซ่อมกันใหม่จนกว่าจะผ่านการทดสอบนั้นก็จะเหมือนการทดสอบสมรรถภาพตอนปี 1 คือดันพื้น ลุก-นั่ง วิ่ง ใช้หลักเกณฑ์เดียวกับปี 1 เลยค่ะ

ปี 3 แล้ว

ได้เวลาเตรียมตัวไปเขาชนไก่...

ปีที่ทุกคนเฝ้ารอคอยถึงการได้ผจญภัยที่จังหวัดกาญจนบุรีเฝ้าฝันว่าจะเป็นยังไงบ้างนะ จะเหมือนอย่างที่คิดหรือไม่ แน่ละมันเป็นที่ที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแน่นอนไม่มีห้องนอนสุดหรูไม่มีแอร์เย็น ๆ ไม่มีความสะดวกความสบาย คุณจะไม่ได้มีแค่คนเป็นเพื่อนแต่ คุณจะมีแมลงเป็นเพื่อนคุณจะมียุงเป็นเพื่อน คุณจะมีมดเป็นเพื่อนและคุณก็ต้องสู้กับอารมณ์ของตัวเองสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นการถูกกดดันโดยครูฝึก การต่อสู้กับความร้อน ต่อสู้กับความง่วง ต่อสู้กับความหิวและต่อสู้กับห้องน้ำที่ไม่มีซะยังจะดีกว่าเปิดโลกใบใหม่กับการกินอาหารแบบ outdoor กินข้าวคลุกเค้าฝุ่น แหม่ หาที่ไหนไม่มีอีกแล้วบอกเลยถึงจะทรหดแต่...สนุกจังจริง ๆ

เตรียมตัว จัดเครื่องสนาม

เครื่องสนามคืออะไรอ่ะ? เครื่องสนามคือ อุปกรณ์ที่จำเป็นไว้ใช้ในภาคสนามการค้างแรม 3 วัน 2 คืนมีอะไรบ้าง กระเป๋าสนาม กระติกน้ำ แก้วสนามที่สามารถหุงข้าวได้ ช้อน ถุงนอน และอื่น ๆ

เช็คชื่อเข้าแถวขึ้นรถเพื่อดินทางที่สวนเจ้าเชตุ

นักศึกษาชั้นปีที่ 3 ที่จะทำการเดินทางไปเขาชนไก่จะต้องมารวมตัวกันที่สวนเจ้าเชตุขึ้นรถที่ครูฝึกได้เตรียมไว้เพื่อให้อยู่ในสายตาของครูฝึกและเพื่อความปลอดภัยของนักศึกษาหากเกิดการพลัดหลงกันจะเกิดปัญหาขึ้นได้  ดังนั้นชั้นปีที่ 3 จะต้องขึ้นรถที่ทางครูฝึกเตรียมไว้ให้เท่านั้น เมื่อนักศึกษาพร้อมแล้วก็จะทำการเดินรถออกทันที

ที่พักของรด.หญิง

ที่พักของนักศึกษาวิชาทหารหญิงจะเป็นโรงนอนไม่ต้องไปกางเต็นท์เหมือนผู้ชายมีพัดลมเพดานให้แต่อย่าคิดว่าสบายเพราะช่วงที่ไปนั้นเป็นทั้งหน้าร้อนและหน้าหนาวขึ้นชื่อว่าเขาชนไก่ก็เปรียบเหมือนทะเลทรายซาฮาร่า กลางวันร้อนกลางคืนหนาวพัดลมก็ไม่ได้ช่วยอะไรเพราะพัง ! นี่สิความลำบากของจริง ในช่วงที่ไปถึงตอนแรกครูฝึกจะจ่ายเป็นกองร้อย เพื่อแบ่งเข้าโรงนอนแต่ละโรงนอนนั้นจะรวมหลายโรงเรียนไว้ด้วยกัน มีเพื่อนใหม่อีกแล้ว และที่สำคัญจะต้องทำการจัดเวรยามในแต่ละกะ กะละ 3-4 ชั่วโมง

วันที่สอง เรียนรู้เมื่อถูกสารพิษ

ในวันนี้ครูฝึกจะทำการสอนจำลองเหตุการณ์หากว่าถูกข้าศึกโจมตีด้วยสารมีพิษควรทำอย่างไร การปฐมพยาบาลเบื้องต้นการดูทิศทางที่สารพิษมา หลบและป้องกันสารพิษ ทำอย่างไรเมื่อพิษเข้าตา การทำ CPR การห้ามเลือดโดยใช้ผ้าพันคอ การใช้ประโยชน์จากส่วนต่างๆของเสื้อผ้ารู้จักหน้ากากกันสารพิษว่าหน้าตาเป็นอย่างไร

ยิงปืนจริง

คราวนี้เป็นการใช้ปืนจริงลูกกระสุนจริงทั้งหมดทั้งมวลนี้ต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของครูฝึกเพราะสามารถเกิดอันตรายได้ทุกเมื่อ สถานีนี้จึงเข้มงวดมากกว่าปกติและต้องใส่ ear plug เพื่อป้องกันหูชั้นในเพราะเสียงปืนดังมาก

กระโดดหอ (สิ่งที่ทุกคนเฝ้ารอ)

สถานีกระโดดหอนี้เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์เลยก็ว่าได้เพราะต้องสู้กับจิตใจของตัวเองล้วน ๆ ถ้าคุณไม่โดดเรามีตัวช่วยบาทาของครูฝึกจะทำให้คุณรู้ว่าคุณไม่กล้าแต่ครูกล้า (ถีบ) กรี๊ดกันยาวไปเลย

ส่งท้ายก่อนจาก

มีการเรียนเชิญผู้บังคับบัญชาสูงสุดของทหารบกมาเป็นผู้กล่าวปิดการเข้าค่ายของนักศึกษาวิชาทหารจะมีการกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณไม่ว่าจะชายหรือหญิงจะจงรักภักดีต่อชาติสืบไปและจะเป็นเยาวชนที่ดีให้แก่ประเทศชาติสืบไป

การเรียน รด.นั้นทำให้ผู้เขียนได้ค้นพบอะไรหลาย ๆ อย่างการจากบ้านมาไกลมันทำให้เราเข้าใจหัวอกของทหารที่ต้องจากครอบครัว ลูก เมีย แม่ พ่อ บางคนมีคนที่ต้องดูแลแต่ด้วยหน้าที่จึงต้องจำจาก ผู้เขียนเองยอมรับว่าแอบร้องไห้อยู่เหมือนกันมันทั้งเหนื่อย ทั้งท้อ อัดอั้น ความห่วงใยมีความรู้สึกแบบนี้นี่เอง จงอดทน อดกลั้น เถอะค่ะ เมื่อคุณต้องเจอกับปัญหาเพราะมีหลายคนที่พวกเขาทำได้แค่ "อดทน และเฝ้ารอ" บางคนไม่มีโอกาสได้ดูแลคนที่รักด้วยภาระหน้าที่ที่ต้องปกป้องประเทศ น่าเห็นใจมาก ๆ ค่ะ

• เครดิตภาพโดย:ผู้เขียน