อื่นๆ
กว่าจะมาเป็นสวนลุงจั้ม
ใครจะคิดว่าก่อนที่จะมาเป็นสวนลุงจั้มต้องผ่านอะไรมาบ้าง จากมนุษย์เงินเดือนที่อยากมีกิจการเป็นของตัวเองจนล่วงเลยเข้าสู่วัยเกษียนก็ยังไม่เลิกล้มความตั้งใจ เคยทดลองไปขายอาหารทะเลแห้งตามตลาดสด ขายวุ้นมะพร้าวตามสวนสาธารณะ เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจ เหมือนยังไม่ใช่ตัวตนของเรา ค้นหาตัวเองจนเข้าสู่วัยใกล้ปลดประจำการก็ยังไม่ย่อท้อ
จนมีโอกาสได้เป็นเจ้าของที่ดินขนาด 1 ไร่ เริ่มปลูกต้นไม้หลากหลายโดยมีแนวคิดว่าปลูกทุกอย่างที่กินได้ลองปลูกหลาย ๆ อย่างบนที่ดินเพื่อจะได้รู้ว่าพื้นที่ตรงนี้เหมาะกับการปลูกต้นอะไรมากที่สุด และจะได้ผลผลิตมากที่สุด เริ่มจากมะพร้าว 10 ต้น ตอนนี้เหลือแค่ 5 ต้น น้อยหน่า 10 ต้น ตอนนี้เหลือ 5 ต้น ฝรั่ง 10 ต้น ยังอยู่ครบ มะม่วง เชอรี่ ชมภู่ ส้มโอ กะท้อน มะขามเทศ ต้นหม่อน ไม้พื้นเมืองต่าง ๆ แต่ที่ปลูกกี่รอบก็ตายก็คือทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง รู้แล้วว่าที่ดินตรงนี้ไม่เหมาะกับต้นไม้แนวนี้แน่ ๆ
Advertisement
Advertisement
นั่นแหละเป็นจุดเริ่มต้นของการค้นพบตัวเองเป็นครั้งแรก เพราะทำแล้วยังอยากทำต่อไป ยังเฝ้ารอคอยการเจริญเติบโตของต้นไม้ในสวน มีความสุขกับการเดินชมดอกผล แต่สิ่งที่แตกต่างคือการดำเนินการโดยไม่ได้นึกถึงผลกำไรขาดทุน สิ่งที่ได้รับคือความสุขทางใจ อาจเป็นเพราะวัยที่ล่วงเลยทำให้ความคิดเปลี่ยนไปจากเดิม
สวนเล็ก ๆ แต่เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ เป็นความพอเพียงที่มารองรับสถานะการณ์ตอนนี้ นั่นคือการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ซึ่งอาจทำให้ได้รับผลกระทบด้านการเงินบ้าง แต่กระทบด้านความเป็นอยู่น้อยมากเพราะเรามีแหล่งอาหารอยู่ในสวนผสมแห่งนี้
ที่กล่าวมาเพราะอยากให้เป็นแรงบันดาลใจเล็ก ๆ ต่อผู้ที่ยังค้นหาความต้องการของตัวเอง ไม่มีคำว่าสายเกินไป ตราบเท่าที่เรายังมีแรงกายแรงใจ และความคิดฝัน สวนลุงจั้มวันนี้กำลังรอวันเติบโต อีกไม่นานเกินรอ พบกับผลไม้ปลอดสารพิษสวนลุงจั้ม หนุ่มใหญ่ ใจดี รอรับออเดอร์อยู่นะครับ
Advertisement
Advertisement
cr.ผู้เขียนถ่ายเอง
ความคิดเห็น