เรื่องหลอนๆหลังโรงเรียน

รูปภาพหน้าปก โดย volfdrag จาก pixabay

เชื่อว่าทุกโรงเรียนต้องมีเรื่องเล่า จากรุ่นสู่รุ่นไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักเท่าไหร่ เรื่องเล่ายังคงส่งต่อไม่จางหายไป อาจจะมีบิดเบือนไปบ้างตามกาลเวลา คำเตือน❕อย่าอ่านตอนดึกเพราะคุณอาจจะตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ

รูปภาพที่1 โดย KELLEPICS จาก pixabay

โรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง "ห้องน้ำหญิงหลังอาคารเรียน1" เด็กๆบางคนก็ได้ยินเสียงร้องไห้ บางคนก็ได้ยินเสียงร้องขอให้ช่วย บางคนก็ถูกเขย่าประตู จนเด็กทุกคนกลัวจะเข้าห้องน้ำแต่ละครั้งต้องชวนเพื่อนไปด้วยไม่ต่ำกว่า 4-5 คนหรือจะเข้าแค่ช่วงพักเที่ยงรอบเดียว เล่ากันว่าเคยมี "เด็กนักเรียนหญิงตายในห้องน้ำ" ถูกรุ่นพี่ผู้ชายแกล้งใช้แม่กุญแจล็อกประตูไว้ เหตุผลเพราะเด็กหญิงไปฟ้องครูว่าถูกรุ่นพี่รีดไถเงิน รุ่นพี่โดนลงโทษ รุ่นพี่โมโหมากคิดหาทางเอาคืนเด็กหญิง พอดีช่วงเลิกเรียนเด็กหญิงเดินมาเข้าห้องน้ำเจอรุ่นพี่เข้าพอดี รุ่นพี่จึงผลักเด็กหญิงเข้าห้องน้ำไปล็อคกุญแจทันทีโดยไม่ฟังเสียงร้องเรียกใดๆ รุ่นพี่จึงเดินกลับบ้าน คิดว่าเดี๋ยวก็มีคนไปเจอช่วยออกมาเอง เมื่อคุณพ่อเด็กหญิงมาถึงไม่พบลูกสาวคิดว่าลูกคงเรียนพิเศษยังไม่เสร็จได้แต่นั่งรอเด็กๆที่เรียนพิเศษต่างพากันเดินทยอยออกมาแต่ไม่มีลูกสาวตน คุณพ่อจึงเดินไปถามเพื่อนของเด็กหญิงได้ความว่า "ไม่เห็นนะคะไม่เข้าเรียนพิเศษด้วยค่ะ" เมื่อพ่อได้ยินแบบนี้ใจคอไม่ดีมือไม้เริ่มสั่นกลัวลูกสาวจะเกิดอันตรายรีบวิ่งไปหาคุณครูที่ห้องสอนพิเศษคุณครูก็พูดเหมือนกัน "ครูนึกว่าคุณพ่อมารับกลับก่อนแล้วนะคะ" คุณครู คุณพ่อต่างพากันหาจนทั่วโรงเรียนแต่ไม่ทันคิดถึง"ห้องน้ำหญิง" ผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมงไร้วี่แววจนภารโรงวิ่งมาตามบอกเจอเด็กถูกขังในห้องน้ำหญิงแต่..."เด็กเสียชีวิตแล้ว" คุณพ่อรีบวิ่งตามมาทันทีเมื่อมาถึงพบเด็กหญิงอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนมือเท้าเกร็งปากซีดคุณพ่อเมื่อเห็นสภาพลูกสาวเข่าอ่อนทรุดตัวลงกอดลูกร่ำไห้จนใจแทบขาด คุณหมอวินิจฉัยว่าเด็กหญิงมีภาวะโรคหัวใจอาจจะตกใจมากกลัวเครียดบวกกับห้องน้ำอากาศไม่ถ่ายเทเลยเสียชีวิต รุ่นพี่รับกรรมถูกส่งตัวเข้าสถานพินิจเพราะยังเป็นเยาวชน ความหลอนของเด็กหญิงเป็นที่เลื่องลือไม่ขาดสาย บ้างก็ได้ยิน บ้างก็ได้เห็น วนเวียนอยู่ไม่ยอมไปไหนเพราะตายก่อนวัยอันสมควร จนในที่สุดห้องน้ำฝั่งนั้นถูกปิดตายย้ายมาสร้างอีกฝั่งของอาคารเรียนแทน

รูปภาพที่3 โดย TamalRoy จาก pixabay

คุณยายบ้านข้างโรงเรียน ผู้หญิงสูงวัยอายุประมาณเจ็ดสิบกว่าๆอยู่บ้านคนเดียวตามลำพัง คนแถวนั้นเล่ากันว่าคุณยายไม่มีลูกหลานอยู่ตัวคนเดียว คุณยายเป็นคนขยันตื่นเช้ามาดูแลแปลงผักรดน้ำพรวนดินอยู่เป็นประจำเด็กๆที่เดินผ่านหน้าบ้านคุณยายจะยกมือไหว้ "สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ" ถ้าวันไหนคุณยายทำขนมเด็กๆมีขนมติดไม้ติดมือมาไว้กินช่วงพักกลางวันตลอด คุณยายจะทำแบบนี้ทุกวัน ทุกวัน จนมาวันหนึ่ง "พวกเราวันนี้คุณยายทำขนมแจก" เด็กๆที่เดินผ่านได้ยินเพื่อนร้องตะโกนบอกต่างก็รีบวิ่งมารอรับขนมเข้าแถวกันอย่างเป็นระเบียบเหมือนเช่นทุกครั้งเพราะเด็กๆทุกคนต่างชอบในรสมือการทำขนมของคุณยายมันช่างแสนอร่อยเหลือเกิน แต่วันนี้ดูคุณยายแปลกไปเด็กคนหนึ่งเอ่ยถามคุณยายด้วยความเป็นห่วง "คุณยายครับไม่สบายหรือเปล่าครับ ผมเห็นหน้าคุณยายดูซีดๆครับ" คุณยายได้แต่ยิ้มไม่ตอบอะไรแล้วเก็บถาดขนมเดินเข้าบ้านไป หลายวันต่อมาเด็กๆชั้นป.5ซึ่งห้องเรียนอยู่ติดทางฝั่งบ้านของคุณยายขณะที่นั่งเรียนคาบเช้าก็พากันได้กลิ่นแปลกๆเหม็นเน่าคล้ายหนูตายเด็กๆต่างไม่มีสมาธิในการเรียนบางคนต้องขออนุญาตคุณครูไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาเจียนเพราะทนต่อกลิ่นไม่ไหวยิ่งอยู่ในห้องกลิ่นยิ่งแรงมาก โรงเรียนเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวมีด้วยกัน3อาคาร เมื่อเดินเข้าจากทางด้านหน้าโรงเรียนมองตรงมาจะเป็นอาคารสำหรับคุณครูใหญ่และคุณครูทุกท่านเป็นห้องประชุมโล่งกับส่วนของเด็กเล็กอนุบาล ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นห้องของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่1-3ส่วนทางขวามือจะเป็นห้องของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 เป็นห้องที่ติดกับทางบ้านคุณยายโดยมีรั้วปูนต่ำๆกั้นกลางเพื่อแบ่งเขต คุณครูและเด็กๆพากันเดินสำรวจตามมุมอับตามซอกหลืบต่างๆจนทั่วอาคารก็ไม่พบซากสัตว์ใดเด็กชายคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบมา "คุณครูครับผมว่ากลิ่นมาจากบ้านคุณยายครับ" คุณครูจึงเดินตามเด็กชายไปข้างรั้วกำแพงปรากฏว่ากลิ่นแรงมากจริง คุณครูจึงให้นักเรียนกลับไปนั่งรอที่ระเบียงด้วยความเรียบร้อยแล้วไปชวนเพื่อนครูชายหญิงไปบ้านคุณยายด้วยกัน พอไปถึงหน้าบ้านคุณยายทุกคนพยายามร้องเรียกคุณยายหลายครั้งจนตัดสินใจเปิดประตูรั้วเดินเข้ามาเมื่อเข้าเขตบ้านคุณยายกลิ่นเน่าเหม็นก็คละคลุ้งไปทั่วบริเวณบ้านจนแทบจะอาเจียน คุณครูจึงตัดสินใจเปิดประตูบ้านคุณยายเข้าไปด้านในแต่ต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบคุณยายนอนคว่ำหน้า มีเลือดไหลนองที่บริเวณศีรษะสภาพตามตัวเริ่มมีน้ำหนองไหลกำลังเริ่มเน่า คุณครูตั้งสติรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ข่าวการตายของคุณยายเป็นที่เลื่องลือกันไปทั่ว คุณยายตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า3-4วันด้วยโรคหัวใจล้มเหลวน่าจะเกิดอาการช็อกล้มหมดสติหัวฟาดกับพื้น แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นแล้วภาพที่เด็กๆเห็นคุณยาย3วันก่อนขนมแสนอร่อยของคุณยายอีกหล่ะ นั่นคือคุณยายก่อนตายหรือวิญญาณของคุณยายกันแน่ หลายรุ่นผ่านไปยังคงเล่าต่อๆกันเด็กใหม่มักจะได้เจอคุณยายแจกขนม หลอนต้อนรับนักเรียนหน้าใหม่อยู่เสมอ😀

รูปภาพที่4 โดย MysticSartdesign จาก pixabay

เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 3 เรื่องเล่าหลังโรงเรียนที่เอามาฝากกันมีเพื่อนๆคนไหนชอบจับกลุ่มคุยกันหลังโรงเรียนหรือตามส่วนไหนของโรงเรียนกันบ้างไหมคะแชร์ประสบการณ์เข้ามาได้นะ "สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนดำเนินชีวิตอย่างมีสติ ตั้งมั่นในความดีนะคะ" แล้วพบกันใหม่ค่ะ☺

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงสุดหลากหลาย บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !