อื่นๆ
ติดเกาะสยอง
ในวันพักร้อนของดุสิต เขากำลังขับรถมุ่งหน้าตรงไปที่หมู่บ้านชายทะเล เพื่อไปขึ้นเรือประมงของชาวบ้านที่เขาเหมาไว้โดยเฉพาะ เพื่อล่องเรือไปตกปลากลางทะเล ซึ่งเขาหาโอกาสแบบนี้มานานแล้ว และพักร้อนที่นี้เขาก็มีโอกาสได้ทำมันเสียที เขารู้สึกตื่นและขับรถเปิดเพลงเบา ๆ ฟังไปอย่างสบายอารมณ์ ขับรถไปถึงที่ชายทะเลช่วงบ่ายกว่า ๆ ซึ่งก็ยังไม่ถึงเวลาที่นัดเรือไว้ เขาจึงออกมานั่งกินอาหารรอเพราะนัดกับเรือไว้ตอน 5 โมงเย็น ขณะนี่เขานั่งอยู่ที่ร้านอาหารนั้นเขาก็เห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินขายสร้อยเครื่องราง รูปร่างหน้าตาแปลกๆ ซึ่งดุสิตไม่เคยเห็นมาก่อน เขาจึงเรียกเด็กหญิงเข้ามาถามเพื่อจะขอซื้อ
ดุสิตได้ถามไปว่า “นี่สร้อยอะไรหรอหนู รูปร่างแปลก ๆ”
เด็กหญิงได้ตอบว่า “มันเป็นเครื่องรางที่ทำจากเปลือกหอยค่ะ หายากมากเลย แถวนี้มีแค่หนูคนเดียวที่ขาย”
Advertisement
Advertisement
ดุสิตก็ตามไปว่า “แล้วราคาเท่าไร”
เด็กหญิงก็ตอบมาว่า “500 บาทค่ะ”
ดุสิตก็ตอบไปว่า “โห ทำไมแพงจัง”
เด็กหญิงก็ตอบไปว่า “ไม่แพงหรอกค่ะคุณน้า มันเป็นของหากยากที่หนูเหลือแค่สามเส้นเอง เอางี้เดี๋ยวหนูแถมกำไรให้เส้นหนึ่ง”
ดูสิตจึงตัดสินใจซื้อเพราะเห็นว่ามันแปลกดี พร้อมกับได้กำไรเล็ก ๆ มาหนึ่งเส้นเป็นของแถม ดุสิตนำสร้อยเส้นนั้นมาแขวนไว้ที่คอ แต่เมื่อเขาเดินออกมาจากร้าน เขาเดินไปไหนตลอด เขาก็ต้องอมยิ้มและส่ายหัวเบา ๆ เพราะเขาเจอสร้อยเครื่องรางที่ลักษณะเหมือนกันกับที่เขาซื้อมา วางขายอยู่เต็มตลาด โดยขายในราคา 100 บาท เขาได้คิดในใจว่า “เสียท่าเด็กจนได้เรา” จากนั้นเขาก็เดินไปที่จุดขึ้นเรือตามเวลาที่นัดหมาย
เมื่อเขาไปถึงเรือเขาก็เจอนายเข้มคนขับเรือ นายเข้มก็จัดแจงนำสัมภาระขึ้นเรืออย่างคล่องแคล่ว ดูท่าทางแล้วชำนาญมาจึงทำให้ดุสิตมั่นใจว่านายเข้มจะพาเขาลอยอยู่ในทะเลและกลับมาได้อย่างปลอดภัย จากนั้นทั้งสองคนก็ล่องเรือไปกลางทะเล ถึงแม้เรือของนายเข้มจะเป็นเรือประมงขนาดเล็ก แต่ก็สามารถทนต่อแรงคลื่นได้เป็นอย่างดี นายเข้มขับเรือออกไปไกลจากชายฝั่งเป็นสิบ ๆ กิโลเมตร จึงมาจอดที่จุดตกปลาที่นายเข้มบอกว่ามีแต่ปลาตัวใหญ่ ๆ ให้ตกได้อย่างสนาน ระหว่างที่ดุสิตตกปลาอยู่นั้น นายเข้มก็ลงอวนไดหมึกไว้ด้วยเพื่อนำปลาหมึกกลับมาขาย เรียกว่าจะได้ไม่เสียเที่ยว
Advertisement
Advertisement
ภาพโดย Stefan Kiss จาก Pixabay
ดุสิตนั่งตกปลาจนดึกอยู่ ๆ เหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น พายุลูกใหญ่ถล่มเข้ามากลางทะเลทำให้ฝนกระหน่ำตกอย่างหนัก ตัวเรือโยกไปโยกมาตามแรงคลื่น นายเข้มพยายามบังคับเรือไม่ให้เสียการทรงตัว แต่เพราะมีคลื่นลูกใหญ่สูงจากตัวเรือหลายเมตรซัดเข้ามาที่ตัวเรืออย่างจึง ทำให้เรือของนายเข้มแตกเป็นเสี่ยง ๆ ดุสิตกับนายเข้มกระเด็นลงน้ำทันที ทั้งสองพยายามกระเสือกกระสนเอาตัวรอดจากพายุท่าบ้าคลั่งนี้ ดุสิตจมลงไปในน้ำ เขาหายไม่ออกและมองอะไรไม่เห็นทุกอย่างมีแต่ความมืด ในขณะที่เขาแทบจะหมดสติไป เมือของเขาได้ไปคว้ากับบางสิ่งบางอย่างที่ลอยอยู่เหนือน้ำ เขารีบดีตัวเอาหัวขึ้นมาจากใต้น้ำและเกาะห่วงยางไว้
ตอนนั้นเขามองไม่เห็นนายเข้มแล้ว รอบ ๆ ตัวเขามีแต่ความมืดเขาไม่รู้ว่าจะเอาตัวรอดจากกลางทะเลนี้ได้อย่างไร เขาลอยคอไปเรื่อย ๆ หลายชั่วโมง แรงคลื่นผลักห่วงยางของเขาให้ลอยไปเรื่อย ๆ อย่างไม่รู้ทิศทาง จนเขามองเห็นเงาว่ามีเกาะเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง เขาพยายามถีบตัวห่วงยางเพื่อดันเข้าฝั่งให้ได้ เมื่อถึงบนฝั่งเขาก็คิดว่าตอนนั้นเขารอดตาย แต่เขาก็ต้องคิดต่อว่าจะออกไปจากเกาะนี้ยังไง ทำยังไงถึงจะมีคนมาช่วย เขาติดอยู่บนเกาะนั้นหลายวันและเขาก็แปลกใจว่า มีเครื่องบินและเรือผ่านมาตลอด เขาพยายามเรียกหรือส่งสัญญาณของความช่วยเหลือ ก็ไม่มีใครเห็นและมาช่วยเขาเลย เขาอดน้ำอดอาหารจนผมโซ คืนหนึ่งในขณะที่เขานั่งซึมอยู่ที่ชายฝั่ง เขายินเสียงประหลาดดังออกมาจากในป่า เสียงนั้นมันน่ากลัว เขาจึงรีบวิ่งไปหลบอยู่หลังโขดหิน เขาตกใจและกลัวมากที่เห็นโครงกระดูคนนับสิบ เดินไปมาอยู่ริมชายฝั่ง แต่เขาก็ทำได้เพียงแอบมองอยู่อย่างนั้นจนพวกมันหายไป
Advertisement
Advertisement
ภาพโดย Wolfgang Eckert จาก Pixabay
วันต่อเขาเห็นเรือประมงลำหนึ่งลอยเข้ามาใกล้ ๆ เกาะใกล้พอที่เขาสามารถมองเห็นนายเข้มยืนอยู่บนเรือ เขาแน่ใจว่านายเข้มกำลังตามหาเขาอยู่แน่ ๆ เขาจึงตะโกนเรียกอย่างสุดเสียง เรือก็ลอยเข้ามาใกล้ ๆ เกาะขึ้นดุสิตดีใจว่าเขาจะได้กลับบ้านแล้ว แต่เรือกลับถอยกลับไปราวกลับว่าคนที่อยู่บนเรือมองไม่เห็นเขา และไม่ได้ยินที่เขาเรียก เขาทรุดลงนั่งกับพื้นอย่างหมดความหวัง และในเย็นวันนั้นเขาก็ได้พบกับคำตอบว่าทำไมถึงไม่มีเรือหรือเครื่องบินมองเห็นหรือได้ยินเขาเลย เมื่อมีศพลอยมาติดชายฝั่งดุสิตเดินเข้าไปใกล้ ๆ เขาเห็นว่าศพนั้นเน่าเปื่อย แต่ดูจากเสื้อผ้าและสร้อยเครื่องรางที่ห้อยอยู่ที่คอ ก็ทำให้ดุสิตรู้ทันทีว่า นั่นคือศพของเขาซึ่งได้ตายไปแล้วจากการจมน้ำตั้งแต่เรือแตก ทำให้วิญญาณของเขาต้องติดอยู่ที่เกาะแห่งนั้นตลอดไป
ความคิดเห็น