Bully การกลั่นแกล้ง ที่สังคมไม่ควรมองข้าม

แก้มซาลาเปา

06 มี.ค. 2020|2 min read

อ่านบทความอื่นจาก แก้มซาลาเปา

คัดลอกลิงค์

แจ้งตรวจสอบ

Bully การกลั่นแกล้ง ที่สังคมไม่ควรมองข้าม

“บูลลี่” คำ ๆ นิ้ หลายคนอาจไม่เคยได้ยินหรืออาจเคยได้ยินแล้วไม่รู้จักความหมาย ของคำนี้ ซึ่งบทความนี้ผมจะพาไปรู้จักกับคำว่า “บูลลี่” และทำไมสังคมไม่ควรมองข้าม ลองมาอ่านกันดูนะครับ

“บูลลี่ Bully” คือ เป็นการกลั่นแกล้งคนอื่น เป็นการแกล้งคนที่ด้อยกว่าหรืออ่อนแอกว่า ซึ่งการกลั่นแกล้งจะมีดังนี้

1.ทางด้านร่างกาย

เป็นการกลั่นแกล้งโดยการตบ การตี การทำร้ายร่างกาย เพื่อให้อีกฝ่ายนั้นรู้สึกเจ็บปวด

2.ทางด้านจิตใจ

เป็นการกลั่นแกล้งที่อาจจะกดดันด้วยการแบ่งแยกไม่ให้เรามีเพื่อน ยั่วยุ กดดันจากสิ่งรอบข้าง ทำให้อับอายในที่สาธารณะ

sad เครดิต : https://bit.ly/2TDTEZc

3.ทางด้านคำพูด

เป็นการกลั่นแกล้งที่อาจจะพูดล้อเลียน ดูถูก เยาะเย้ย ล้อปมด้อย หรือแม้แต่การนินทาว่าร้าย โกหก

4.ทางด้านโลกโซเชียลมีเดีย

เป็นการกลั่นแกล้งที่อาจจะล้อเราในโซเชียล ว่าเราเสีย ๆ หาย ๆ โพสต์ข้อความโจมตี หรือคุกคามทางเพศ หรือทำให้อับอายบนโลกโซเชียล

แกล้ง เครดิต : https://bit.ly/39kinbh

คนที่อยากแกล้งคนหรืออยากบูลลี่คน คนนั้นอาจเกิดจากการที่พวกเขาเหล่านนี้นั้นอาจมีปมด้อยบางอย่างจากการเลี้ยงดูในที่เชิงลบ หรืออาจอิจฉาที่คนอื่นได้ดีกว่าตนหรือเห็นคนที่อ่อนแอกว่าเกิดอยากแกล้งขึ้นมา เพื่อความสนุกของตัวเอง หรืออาจทำเพื่อให้ตัวเองนั้นมีอำนาจที่เหนือกว่า

และเรา "ไม่ควรมองข้าม" กับการกระทำเหล่านี้ของคนพวกนี้ เพราะภายในอนาคตนั้นคนพวกเขาเหล่านี้อาจมีการแกล้งที่รุนแรงมากขึ้นก็อาจเป็นไปได้ เราจึงต้องคอยมั่นตักเตือนว่ากล่าวว่าการกระทำเหล่านั้นคือสิ่งไม่ดี และใช้คำพูดที่อ่อนโยน สอนความคิดเชิงบวกให้กับพวกเขาและให้เวลาเขาในการปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น

ผู้ใหญ่หลายคนนั้นคิดว่าการบูลลี่นั้นเป็นเพียงแค่การเล่นเล่นสนุกของเด็ก ๆ เท่านั้น จึงไม่ค่อยให้ความสำคัญกับคนที่โดนรังแกสักเท่าไหร่ แต่คนที่ที่ถูกบูลลี่นั้น ไม่ได้รู้สึกสนุกเลยด้วยสักนิด กลับเป็นการทำร้ายจิตใจกันที่รุนแรง จนถึงทำให้มีบาดแผลในใจ บางคนถูกล้อเลียน ถูกด่าปมด้อยของตน โดนกลั่นแกล้งจนไม่อยากไปโรงเรียนก็มี บางคนนั้นเกิดอาการหวาดกลัว หรือบางคนนั้นถึงขั้นเกิดอาการเป็นโรคซึมเศร้าจนอยากฆ่าตัวตายไปเลยก็มี

sad เครดิต : https://bit.ly/38itDna

เพราะฉะนั้นแล้วคนที่เป็นคุณครู หรือพ่อแม่ ผู้ปกครองเด็กนั้น ต้องคอยมั่นสังเกตลูกหลานของตัวเองว่ามีอาการที่ผิดปกติที่บ่งบอกว่าเด็กนั้นโดนบูลลี่หรือไม่ เช่น เกิดอาการซึมเศร้า ไม่อยากไปโรงเรียน มีรอยแผลตามร่างกาย เกิดความหวาดกลัว เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เรื่องที่หน้าเศร้าเกิดขึ้น และถ้าหากเห็นเด็กโดนบูลลี่เราต้องยืนมือเขาไปช่วย สร้างความไว้ใจที่เด็กคนนั้นจะกล้าพูดคุย กล้าที่จะเปิดใจให้กับเรา อยู่เคียงข้างเขาและคอยผ่อนหนักให้เป็นเบาให้กับเขา คอยให้กำลังใจเขาและให้เขาสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองให้ได้ เพื่อให้เด็กนั้นกล้าที่จะเผชิญโลกต่อไปครับ

ครอบครัว เครดิต : https://bit.ly/39kDZ7o