อื่นๆ

วิญญานมาตาม สุดหลอน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
วิญญานมาตาม สุดหลอน

**วิญญาณมาตาม**

..........เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว ที่สุพรรณีบุรี เมื่อสมัยที่ผมยังเป็นวัยรุ่น ยังชอบเที่ยวเฮฮากับเพื่อนๆ วันนึงหลังจากที่พวกเราไปเที่ยวดื่มจนได้ที่แล้วนั้น ผมและเพื่อนๆ ก็ได้พากันแยกย้ายกลับบ้าน  จะเหลือกันก็เพียง 3 คน ที่ไปทางเดียวกัน ผมและเพื่อนก็ได้ตกลงกันต่อว่าจะไปเที่ยวผู้หญิงกันต่อ
..........พอไปถึงที่แห่งนั้น พวกเราก็พากันง่วนอยู่กับการเลือกน้องๆอย่างขะมักเขม้น (หัวเราะ)  ขณะที่เรากำลังขับรถดูไปเรื่อยๆ ผมก็สะดุดตาเข้ากับน้องคนนึง  เธอสวยมาก หน้าตาคมเข้ม  แต่ลึกๆแล้ว นัยน์ตาเธอดูแฝงไปด้วยความเศร้าในอะไรบางอย่าง (อันหลังนี้คงไม่ใช่ประเด็น)  ผมจึงได้หยุดเจรจากับเธอ  แต่ในขณะที่เธอก้มตัวลงมาคุยนั้น ผมได้สังเกตเห็นร่างอะไรบางอย่างเป็นเงาสีดำๆ ยืนอยู่ตรงด้านหลังของน้อง  แต่ผมก็คิดว่าคงไม่มีอะไรแหละ คงเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่เราดื่มมามั้ง
..........จากนั้นพอเราเลือกกันได้สมใจหมายแล้วนั้น  ก็พากันไปยังโรงแรมแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ  พอไปถึงเราก็ไปเปิดห้องแยกย้ายขึ้นห้องใครห้องมัน
..........หลังจากที่เราขึ้นไปถึงห้องแล้วนั้น  ผมจึงอดสงสัยไม่ได้ที่จะถามเธอด้วยความเป็นห่วงขึ้นว่า  นี่ไม่สบายรึเปล่าครับ เห็นตาดูเศร้าๆ  เธอตอบด้วยน้ำเสียงเหมือนเพลียๆว่า ไม่ค่ะ  ได้ยินดังนั้นผมก็สบายใจ  แล้วก็พาร่างตัวเองเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายก่อน  แต่ในขณะที่อาบน้ำอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงเหมือนน้องกำลังพึมพำ หรือคุยอะไรกับใครอยู่ซักอย่างนี่แหละ  แต่ผมก็ไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่าตัวเองคงมึนมาก เสียงทีวีล่ะมั้ง
..........หลังจากอาบน้ำเสร็จ  ผมก็ได้เดินไปยังที่นอน แล้วก็นั่งดูทีวีรอน้องอาบน้ำ  แต่ในขณะที่น้องกำลังอาบน้ำอยู่นั้น   จู่ๆไฟในห้องก็เกิดดับครับ...แต่ดับเฉพาะในห้องนะครับ ส่วนทีวีกับในห้องน้ำยังติดอยู่  ทีนี้แหละในห้องตอนนั้นจึงมีเพียงแสงจากทีวีเครื่องเล็ก บวกกับเพียงแสงที่เล็ดลอดออกมาจากห้องน้ำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
..........ทันใดนั้นเองผมจึงรีบหันไปหยิบโทรศัพท์ของโรงแรม เพื่อที่จะแจ้งว่าไฟดับ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น  ผมก็คิดในใจว่าทำไมเหมือนรู้เลยวะว่าไฟดับ  แต่ในขณะที่จะลุกขึ้นไปเปิดประตูนั้น  หางตาของผมดันเหลือบไปเห็นเท้าคู่หนึงที่ยืนอยู่มุมห้อง  หัวใจตอนนั้นรู้สึกได้เลยว่าเต้นแรงมากครับ ขนลุกชูชันไปทั้งตัว  แต่ด้วยอะไรไม่รู้ ทำให้ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมอง ตั้งแต่ปลายเท้าจรดหัวเลย
..........สิ่งที่ผมเห็นในตอนนั้น ก็คือร่างของผู้ชายผิวคล้ำออกเขียวๆ ผมสั้น นัยน์ตาแดง เบิกกว้างเหมือนตาแทบจะถลนก็ว่าได้ แล้วชี้มาที่ผม พร้อมกับพูดว่า “  มึงออกไป “ เท่านั้นแหละครับผมร้องลั่นสิครับ  เธอจึงรีบเปิดประตูห้องน้ำ แล้ววิ่งออกมาดูด้วยความตกใจ  แล้วถามผมว่าพี่เป็นอะไร ผมจึงตอบไปตามตรงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
..........เราทั้งคู่ยังคงนั่งอยู่ในความมืด ที่ไร้แสงไฟในห้อง มีเพียงแสงจากทีวีเพียงเท่านั้น  ผมสังเกตสีหน้าน้องในตอนนั้น เหมือนเธอตกใจมากหลังจากที่ได้รู้ถึงลักษณะของคนที่เราเห็นนั้น  ทันใดนั้นเองมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นแรงมาก ปึ้ง ปึ้ง ปึ้ง น้องลุกขึ้น แล้วค่อยๆเดินไปส่องตาแมวที่ประตูดู...แต่ก็กลับไม่เห็นใครเลย มีเพียงความว่างเปล่า​ ของโรงแรมที่เงียบสงัด
..........จากนั้นน้องจึงเดินกลับมาหาเรา แต่ไม่จบครับ จู่ๆก็มีเสียงกดชักโครก... เอาล่ะสิ ชักโครกมันจะกดเองได้ยังไงวะ เท่านั้นแหละ ผมจึงรีบบอกให้เธอใส่เสื้อผ้า แล้วรีบพากันออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด
..........หลังจากออกมาจากโรงแรมนั้นแล้ว ผมจึงรีบโทรบอกเพื่อนว่าจะขอตัวกลับก่อนแล้วนะ โดยผมนั้นก็ได้พาเธองนั่งแท็กซี่ เพื่อไปส่งยังที่ที่พาเธอมา  ในขณะที่อยู่ในแท็กซี่นั้น เธอก็ได้เล่าให้ฟังว่า ที่เราเห็นนั้น...น่าจะแฟนของเธอ ที่ได้เสียชีวิตไปเพราะถูกรถชน​เมื่อสองวันก่อน  ซึ่งเธอเองก็ยังไม่ได้กลับไปงานศพแฟนเพียงเพราะไม่มีเงินพอ  และคิดว่าเค้าคงมาตาม....
.......... ผมถึงกับช็อคกับสิ่งที่ได้ยิน และก็ได้คำตอบในเวลาเดียวกันเลยครับ​ว่า นี่สินะที่มาของนัยน์ตาเศร้าๆ... แล้วนี่ความซวย​ทำไมต้องมาตกอยู่ที่กูด้วย​ ฮือๆๆๆๆ

Advertisement

Advertisement

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์