อื่นๆ

โรงเรียนล้าง สุดเฮี้ยน หลอน ขย่มขวัญ

684
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
โรงเรียนล้าง สุดเฮี้ยน หลอน ขย่มขวัญ

วัยรุ่นไม่ว่ายุคไหนก็อยากรู้อยากลอง โดยเฉพาะอะไรที่ท้าทาย อย่างเช่นบ้านผีหรือสถานที่เฮี้ยนๆ ผมและเพื่อนก็เป็นพวกอยากรู้อยากเห็นอยากพิสูจน์ พอพวกเยอะไม่มีหรอกคำว่ากลัว เคยไปหลายที่แต่ไม่เคยเจอซักที แต่คืนหนึ่งในเดือนมีนาคมที่​ จ.สุพรรณบุรี ผมและเพื่อนเกือบเอาชีวิตไปทิ้งที่นั่น


ผม นพและเต่าขี่มอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวงานวัดประจำปีด้วย ไอ้นพกับไอ้เต่าพาแฟนไปด้วย คือนกกับแวว ส่วนผมไม่มีแฟนก็ขี่ไปคนเดียว  เที่ยวจนงานเลิก ตอนนั้นเกือบเที่ยงคืน ผมชวนไปกินเหล้าต่อที่บ้านผม ซึ่งก่อนหน้านี้พวกผมซัดยาดองกันไปหลายเป๊กแล้ว
แล้วก่อนจะขี่มอเตอร์ไซค์กลับ ไอ้นพก็พูดถึงโรงเรียนอนุบาลร้างที่อยู่ไม่ไกลโรงเรียนที่พวกเราซึ่งปิดตัวไปแล้วเพราะมีเด็กอนุบาลสี่คนโดนไฟดูดตายที่ตู้กดน้ำเย็น พ่อแม่เด็กฟ้องร้องโรงเรียนจนต้องปิดตัวลง ว่า "พ่อกูบอกว่า เมื่อสองคืนก่อนมีคนไปลองดีต้องวิ่งร้องโวยวายออกมา ทิ้งรถเอาไว้ ตอนเช้าต้องจ้างคนไปขับกลับมา"
ด้วยความที่ชอบเรื่องแบบนี้ผมจึงชวนเพื่อนขี่รถฝ่าความมืดไปทันที  ยิ่งขี่เข้าใกล้โรงเรียนร้างต้นหญ้าข้างทางก็ยิ่งรก พอมาจอดหน้าประตูใหญ่  ก็เห็นโรงเรียนอนุบาลเป็นเงาทะมึนอยู่ท่ามกลางความมืด ไอ้เต่าพูดเบาๆว่า "กูรู้สึกแปลกๆว่ะ ไม่เหมือนบ้านร้างที่พวกเราเคยไปลองเลย" ไอ้นพพูดสวนทันที "ไอ้ห่า จะเหมือนได้ไง นี่มันโรงเรียนไม่ใช่บ้าน" พวกเราพากันหัวเราะเสียงดัง แต่แล้วท่ามกลางเสียงหัวเราะกลับมีนกแสกตัวหนึ่งบินโฉบมาส่งเสียงร้องดังจนสะดุ้งกันสุดตัว ต่างคนต่างมองหน้ากันเลิกลั่ก
ผมตะโกนด่าออกไป "ไอ้ห่า! เดี๋ยวกูยิงด้วยหนังสติ๊กยิง เอามาปิ้งแกล้มเหล้าซะนี่" แล้วก็ชวนกันเข้าไปข้างใน สภาพมีแต่ฝุ่นเศษเพดานพังลงมากองที่พื้น โต๊ะเก้าอี้เล็กๆ ผุพังวางอยู่ระเกะระกะ พวกผมเดินสำรวจตามห้องไปเรื่อยๆ จนทั่วชั้นหนึ่ง แล้วมานั่งพักตรงบันไดขึ้นชั้นสอง
ไอ้นพบ่นออกมา ว่า "ไม่มีอะไรเลย ไหนว่ามีคนวิ่งกันป่าราบ" แต่จู่ ๆ ก็มีเสียงวิ่งบนชั้นสองพร้อมเสียงลากเก้าอี้ดังครืดๆๆๆ ผมสามคนรีบวิ่งขึ้นบันไดไปดูทันที พวกผู้หญิงวิ่งตามหลัง แต่เสียงนั้นก็หยุดลง พบแต่เพียงความมืด พยายามแยกกันส่องไฟฉายตามห้องก็ไม่เจออะไร จึงตัดสินใจกลับ ขณะเดินออกจากอาคาร ไอ้นพส่องไฟไปเห็นน้ำแดง นม น้ำส้มและขนมวางอยู่ตรงข้างอาคารที่มีท่อ PVCโผล่ออกมา ผมคิดได้ทันทีว่าน่าจะเป็นที่วางตู้กดน้ำที่เด็กสี่คนเสียชีวิตแน่ๆ จู่ๆ ก็รู้สึกเย็นสันหลังวาบขนลุกชันทั้งแขนและคอ แต่แล้วไอ้นพก็เทเหล้าลงใกล้ๆ บอกว่า"น้องๆ มากินเหล้าดีกว่า อร่อยกว่าเยอะ" ไอ้เต่ากับไอ้นพพากันหัวเราะชอบใจ ตอนนั้นผมได้แต่ยืนเงียบเพราะเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา
ขณะที่พวกมันหัวเราะกันอยู่  ก็ได้ยินเสียงเด็กพูดเบา ๆ ว่า "เหม็น!"  ทั้งสองคนหยุดหัวเราะพร้อมหันมองแฟนเป็นเชิงถามว่าพูดอะไร แต่ผู้หญิงทั้งสองคนส่ายหน้าปฏิเสธ บรรยากาศเริ่มวังเวงและเงียบสงัดจนน่าอึดอัด จู่ ๆ ไอ้เต่าก็คว้าขวดน้ำแดงและขนมจากพื้นขึ้นมากิน พลางพูดว่า ไม่ต้องแดกแล้วน้ำกับขนม ผมรีบเข้าไปแย่งน้ำกับขนมออกจากมือไอ้เต่า แล้วรีบดึงแขนมันออกจากโรงเรียน

Advertisement

Advertisement


ยังไม่ทันเดินออกประตูใหญ่ ไอ้เต่าก็ทรุดลงกับพื้น อ้วกออกมา แล้วลงไปนอนดิ้นทุรนทุรายกับพื้น เอามือบีบคอตัวเอง ตะโกนขอโทษไม่หยุดปาก "กูขอโทษ กูไม่กล้าแล้ว เอามือออกไป" พวกผมยืนตะลึงค้างอยู่อึดใจก่อนพากันประคองไอ้เต่าขึ้นรถ ให้นั่งกลางระหว่างไอ้นพกับแวว ส่วนนกก็ซ้อนรถผม ทิ้งรถไอ้เต่าเอาไว้ ก่อนรีบบิดมอเตอร์ไซค์ออกมาจนถึงถนนใหญ่
ขณะใกล้ถึงบ้าน มีรถกระบะคันหนึ่งขับจี้หลัง เปิดไฟสูง แถมบีบแตรใส่รถผม  พอผมไม่จอดก็ขับรถแซงปาดหน้า แล้วชายวัยกลางคนเจ้าของรถกระบะลงมาจากรถ เดินมาตะโกนต่อว่า  "เฮ้ย!ทำไมไม่เอาลูกนั่งดีๆ นั่งหลังสุดแถมพิเรนทร์หันหน้าออกมาอีก

เดี๋ยวก็ได้ตกมาตาย" ผมตอบกลับแบบงง ๆ ว่า "ลูกที่ไหน  ผมขี่มากับเพื่อนแค่สองคน" คนขับรถกระบะเดินมาดูข้างหลังนกแล้วทำหน้าตกใจสุดขีด รีบวิ่งไปขึ้นรถกระบะขับออกไปอย่างเร็ว ผมกับนกได้แต่งงๆ  แต่ก็รีบขี่มอเตอร์ไซค์ต่อด้วยความเป็นห่วงไอ้เต่า
เมื่อถึงบ้านก็เห็นพ่อแม่และลุงของผมกำลังดูอาการไอ้เต่า ลุงหันมาเห็นผมก็ตะคอกด่า "พวกมึงไปทำเรื่องมาอีกแล้วล่ะสิ เป็นไง ได้เจอสมใจหรือยัง" ผมชะเง้อไปดูไอ้เต่า มันยังอ้วกออกมาเรื่อยๆ มีแต่น้ำแดงกับขนม ทั้งที่ไอ้เต่ากินน้ำแดงกับขนมไปนิดเดียว ทำไมถึงอ้วกออกมามากมายขนาดนั้น จนลุงต้องถอดพระเครื่องมาคล้องคอให้ไอ้เต่า จากนั้นไปจุดธูปกลางแจ้ง ไอ้เต่าจึงหยุดอ้วกแล้วหลับไป คืนนั้นพวกผมทั้งหมดเลยนอนค้างที่บ้านผม
.           ตอนสายๆ วันรุ่งขึ้น ไอ้เต่ารู้สึกตัว แล้วเล่าเรื่องว่า "ตอนที่จะเดินกลับ จู่ๆ มีเด็กกระโดดขึ้นขี่คอคนหนึ่ง อีกสามมาเกาะขา และเด็กคนที่ขี่คอก็เอามือเอื้อมมาล้วงปากจนต้องอ้วกออกมาเพราะมือที่ล้วงเข้าไปเหม็นเน่ามาก หลังจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้เลย"                    วันนั้นพวกผมยกกันไปทำบุญถวายสังฆทานให้เด็กๆ ที่โรงเรียนอนุบาล พร้อมจุดธูปขอขมาที่นั่นและค่อยไปเอารถไอ้เต่ากลับบ้าน หลังจากวันนั้นพวกผมไม่เคยคิดจะไปลองดีบ้านร้างที่ไหนอีกเลย

Advertisement

Advertisement

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์