อื่นๆ
พาเก็บ "พริกขี้หนูป่า" หารายได้
เมื่อบทความที่แล้วเรารู้จักกับ "พริกขี้หนูป่า" ไปแล้ว วันนี้ผู้เขียนจึงอยากพาเพื่อน ๆ ไปเก็บเพื่อหารายได้กันค่ะ
ในหมู่บ้านของผู้เขียน นิยมทานพริกขี้หนูป่าเป็นอย่างมาก แต่จะหาซื้อตามท้องตลาดก็ค่อนข้างยากค่ะ ด้วยความที่ขนาดเม็ด เล็กกว่าพริกขี้หนูที่ขายทั่วไปตามท้องตลาด ซึ่งทำให้คนที่รับจ้างเก็บพริกไม่ชอบที่จะเก็บ เป็นเหตุให้เหล่าเกษตรไม่นิยมปลูกขาย อีกทั้งพริกชนิดนี้จะเจริญเติบโตได้ดีเมื่ออยู่ตามธรรมชาติ
โดยปกติแล้ว ผู้เขียนจะไปหาพริกขี้หนูป่ากับแม่ในป่า โดยจะเป็นช่วงฤดูฝน เพราะในช่วงฤดูกาลอื่น ๆ ต้นพริกจะขาดน้ำ ทำให้ต้นพริกไม่ออกเม็ดหรือตายลง ซึ่งเวลาเราไปเก็บจะมีแหล่งอยู่แล้ว เพราะเคยไปเก็บบ่อย ๆ แต่ในการไปหาแต่ละครั้ง เราจะไม่มีทางรู้เลยว่า ต้นพริกที่เราเคยเก็บไปครั้งก่อน ๆ จะยังมีอยู่อีกไหม ต้องเสี่ยงเอาทุกครั้งค่ะ และในการเก็บนั้นเราต้องเก็บอย่างทะนุถนอม เพื่อรักษาต้นพริกให้มีเก็บครั้งต่อ ๆ ไป
Advertisement
Advertisement
แค่เก็บพริกไม่ยากค่ะ แต่จะเก็บอย่างไร ที่ทำให้ต้นไม่โทรม จากประสบการณ์ส่วนตัวแล้ว ที่ผู้เขียนพบเห็นส่วนใหญ่ คนมักเก็บพริกแล้วยอดขาด ใบขาด เป็นจำนวนมาก ส่งผลทำให้ต้นพริกโทรม วันนี้ผู้เขียนจึงมีเทคนิคง่าย ๆ ในการเก็บพริกอย่างไร ไม่ให้ต้นโทรมมาฝากค่ะ
2 เทคนิคง่าย ๆ เก็บพริกอย่างไรไม่ให้ต้นโทรม
1. อันดับแรกใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้ของมือข้างที่ไม่ถนัด กดไปที่โคนคั่วพริก แล้วใช้นิ้วที่เหลือประคองกิ่งไว้
2. ใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้ของมือข้างที่ถนัด เก็บพริก ส่วนนิ้วที่เหลือใช้ประคองเม็ดพริกไม่ให้ล่วงลงพื้น
2 เทคนิคง่าย ๆ นี้ จะลดการขาดของใบพริก ทำให้ต้นพริกไม่โทรมหลังการเก็บค่ะ
อุปสรรคในการเก็บพริก
อุปสรรคในการเก็บแต่ละครั้งก็มีมากเช่นกัน ในทุก ๆ ครั้ง จะต้องเจอกับมดแดงไฟ ที่ทำรังอยู่ใต้โคนพริก เจอมดแดงใหญ่ ที่ทำรังอยู่บนต้นพริก เจอยุง ไร หนอน กิ้งกือ สิ่งเหล่านี้ที่กล่าวมา ล้วนเป็นสิ่งกวนใจในการเก็บทั้งสิ้น แต่เมื่อเก็บมาได้แล้วก็คุ้มค่ากับความเหนื่อยค่ะ เพราะมันสามารถทำเงินให้เราได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
Advertisement
Advertisement
ภาพมดทำรังอยู่บนต้นพริก
ในครั้งนี้ ที่ผู้เขียนและแม่ออกไปหาเก็บพริกขี้หนูป่าเพื่อนำมาขาย เมื่อนำมาแบ่งใส่ถุงแล้ว ได้ถึง 15 ถุง ด้วยกัน ราคาที่ขายจะอยู่ที่ถุงละ 10 บาท เราขายในราคาที่ทุกคนสามารถจับต้องได้ อีกด้วยความที่เป็นพริกที่ปลอดสารพิษ รสชาติดี มีความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้คนในหมู่บ้านนิยมทานกันมากค่ะ ถือได้ว่าเก็บมาขายกันไม่ทันเลยทีเดียว
ภาพพริกขี้หนูป่ามาแล้วจ้า ถุงละ 10 บาท
สุดท้ายนี้ ผู้เขียนอยากบอกว่า ในยุคที่เกิดไวรัสโควิด 19 ระบาดนี้ ถ้ามีงานอะไรที่พอจะทำได้ และไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เราก็ควรจะทำค่ะ และบทความนี้ผู้เขียนยังหวังอีกว่า จะทำให้หลาย ๆ คน ที่ได้เข้ามาอ่าน เกิดแรงบันดาลใจในการสร้างอาชีพเสริมใหม่ ๆ เพื่อหารายได้ที่มากขึ้นนะคะ
ภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน
Advertisement
Advertisement
ความคิดเห็น