อื่นๆ

กอดของแม่คือยาวิเศษ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
กอดของแม่คือยาวิเศษ

ในวันที่เหนื่อยล้ากอดใครได้บ้าง

คิดถึงอ้อมกอดของแม่ที่เป็นดั้งยาวิเศษ นึกถึงวันวานเมื่อยังเป็นเด็ก แม่คือทุกสิ่ง

ในวันที่ฉันหกล้มหัวเข่าถลอก ฉันอุทานเรียกแม่ตามมาด้วยเสียงร้อง แม่รีบวิ่งมาดูฉันแล้วพูดปลอบ โอ๋ ไม่เจ็บนะลูกแต่บอกให้ฉันลุกขึ้นเอง ฉันงอแงเพราะแม่ไม่อุ้ม นอนดิ้นอยู่กับพื้นดินแบบนั้นแล้วร้องไห้หนักกว่าเก่า แต่ยิ่งทำแบบนั้นแม่ก็ยิ่งไม่สนใจ แม่ดุฉันด้วยน้ำเสียงเข้มๆ “ อย่ามาทำนิสัยแบบนี้นะ”

ฉันกลัวโดนแม่ตีจึงพยายามกลั้นเสียงสะอื้น แม่หันลังให้ฉันแล้วเดินไปทำกับข้าวต่อ แต่ก็พูดทิ้งท้ายไว้

“ถ้าแค่นี้ยังลุกขึ้นเองไม่ได้ โตขึ้นจะใช้ชีวิตอยู่ได้ยังไง”
ตอนนั้นฉันยังเด็ก ไม่เข้าใจในสิ่งที่แม่พูดแต่เข้าใจไปอีกอย่างคิดว่าแม่ไม่รัก


ในวันที่ฉันโดนเพื่อนแกล้ง เหตุการณ์ในวันนั้นมันทำให้ฉันเกือบตาบอด

Advertisement

Advertisement

หลังจากฤดูเก็บเกี่ยวพวกญาติๆก็จะรวมตัวกันออกแรงสูบน้ำจับปลา วันนั้นเป็นวันหยุดลูกของ ป้าๆน้าอา ก็มาด้วย ฉันดีใจที่มีเพื่อนเยอะ แต่พวกเขาไม่ให้ฉันเล่นด้วยเพราะฉันตัวเล็กและเป็นเด็กผู้หญิง ฉันวิ่งตามพวกเขาเพื่อขอเล่นด้วยแต่พวกเขาวิ่งนี้และพวกเขาก็จับฉันขังไว้ในห้องน้ำ ฉันพยายามจะดันประตูออก แต่ก็สู้แรงหลายคนไม่ได้ ห้องน้ำมันมืดฉันกลัวและเริ่มร้องไห้ ขอร้องให้พวกเขาปล่อยฉัน แต่เหมือนว่าเสียงร้องไห้ของฉันจะทำให้ภวกเขาชอบใจและพากันหัวเราะ ฉันนั่งกอดเข่าร้องไห้แล้วนึกถึงแม่ แล้วลุกขึ้นตะโกนให้แม่ช่วย แต่เสียงเครื่องสูบน้ำคงกลบเสียงของฉัน พวกเขาเงียบไป  ประตูห้องน้ำเป็นสังกะสีมีรูตะปูตอกไว้ ฉันมองลอดผ่านช่องนั้น และพวกเขาก็เอาไม้ทิ่มตาฉัน
แล้วก็พากันหัวเราะชอบใจอีก ฉันร้องลั่นแล้วเอามือกุมตา มันทั้งเจ็บทั้งปวดน้ำตาไหลไม่หยุดลืมตาก็ไม่ได้ ในใจก็คิดว่าเมื่อไรแม่จะมาช่วยฉัน ผ่านไปนานพอสมควรฉันได้ยินเสียงของป้า แกตะวาดไล่เด็กพวกนั้นว่ามาทำอะไรหน้าห้องน้ำ ฉันทุบประตูรัวๆแล้วร้องบอกป้าว่าฉันติดอยู่ด้านใน และในที่สุดฉันก็ได้ออกมาพร้อมกับตาที่เริ่มบวม ฉันซุกหลังป้าเพราะกลัวโดนแกล้งอีก
ป้าที่ฉันสภาพฉันแล้วจึงดุพวกนั้นไป และพาฉันไปหาแม่ ฉันดีใจที่เห็นแม่ แม่วิ่งมากอดฉัน ความรู้สึกตอนนี้นคือฉันต้องปลอดภัยแน่ๆเพราะแม่กอดฉันไว้
ฉันกอดแม่ไว้แน่นเหมือนกัน แม่ดูหน้าฉันแล้วบอกให้ลุงตามรถพาฉันไปหาหมอ แม่ถามฉันว่าเจ็บไหม ฉันพยักหน้าอยากให้แม่โอ๋อีกตามประสาเด็ก

Advertisement

Advertisement

หมอบอกว่าโชคดีทีไม่โดนตาดำ แต่ก็ต้องระวังติดเชื้อ หมอปิดตาให้ฉันแล้วให้ยามาหลายขวด

แม่จะเอาเรื่องเด็กพวกนั้น แต่พ่อแม่ของพวกเขาบอกปัดว่าก็แค่เด็กเล่นกันทำไมต้องทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่
แม่จองขึ้นทันที ความจริงแม่ก็ไม่ได้จะเรียกร้องเงินให้พวกเขาชดใช้นะ แค่จะว่ากล่าวตักเตือนที่พ่อแม่ของพวกเขานั่นแหละที่ทำท่าวางใหญ่ แม่เลยพูดใส่หน้าพวกเขาว่า

“ถ้าเกิดว่าลูกฉันตาบอดพวกแกจะทำยังไง โอ๋มันเข้าไปลูกพวกแก โตขึ้นมันไม่เป็นอันธพาลเหรอ ขนาดเป็นเด็กยังคิดเรื่องพิเลนแบบนี้”
แม่ชี้หน้าด่า และโกรธมาก แล้วพาฉันกลับบ้าน

คืนนั้นแม่ปลอบฉันจนหลับ ทุกครั้งที่ฉันสะดุ้งตื่นก็จะคลำหาแม่ตลอดกลัวแม่ไปไหน

แม่


ในวันที่ฉันต้องห่างจากแม่

ตอนนั้นฉันอายุ 10 ขวบ ด้วยความจำเป็นแม่ต้อง
ฝากฉันไว้กับป้า แม่ต้องไปทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพ ฉันถูกย้ายโรงเรียนมาอีกอำเภอหนึ่ง ฉันร้องไห้หนักเพราะไม่อยากห่างแม่ แต่แม่บอกกับฉันว่าเพื่อความอยู่รอดแม่ต้องไป ให้ฉันอดทน
ฉันคอยมองทางว่าเมื่อไรแม่จะกลับ สมัยนั้นมีเพียงตู้โทรศัพย์หยอดเหรียญ จะโทรหาแม่ก็ต้องใช้เงินหลายบาท ฉันเก็บเงินค่าขนมไว้เพื่อโทรหาแม่ โทรผ่านหัวหน้างานเพราะเขามีโทรศัพท์ ฉันขอสายแม่ เสียงของแม่ทำให้ฉันยิ้ม และนั่นคือความสุขของฉัน แม้จะห่างไกลแต่รู้สึกได้ถึงอ้อมกอด แม่บอกให้ฉันตั้งใจเรียนและช่วยป้าทำงาน อย่าดื้อกับป้า ฉันรับปากอย่างว่าง่าย แต่การอยู่กับป้าใช่ว่าจะมีความสุข ฉันยังโดนเพื่อนข้างบ้านแกล้งอีก หรือเพราะฉันตัวเล็กจึงถูกรังแกนะ

Advertisement

Advertisement

ไม่มีใครช่วยฉัน และเข้าข้างฉัน ฉันแอบร้องไห้แต่ไม่ให้ใครเห็น ทุกคืนฉันนอนกอดผ้าห่มผืนบางที่เคยได้ห่มกับแม่แล้วร้องไห้ บางคืนก็ร้องไห้จนหลับ แต่ฉันไม่อยากให้แม่ห่วงจึงไม่เคยบอกแม่เลย ทุกครั้งที่คุยกับแม่
“เมื่อไรแม่จะกลับ” ฉันถามแม่ทุกครั้ง
รถไอติมมาจอดหน้าบ้าน เด็กๆแถวนั้นพากันรุมต่อแถวซื้อ แต่ฉันกำเงินที่ป้าให้ไปซื้อไอติมไว้แล้วเอาไปหยอดกระปุก ฉันนั่งอยู่ในบ้านรอให้พวกเขากินหมดฉันค่อยออกไป ความจริงก็อยากกินนะแต่อยากได้ยินเสียงแม่มากกว่า ฉันนับวันรอ นับไปเรื่อยๆ ตอนนั้นผ้าห่มผืนบางมีความหมายกับฉันมาก แม้ไม่หนาแต่กับให้ความอบอุ่นได้อย่างประหลาด ฉันอ่านหนังสือเยอะมาก และตั้งใจเรียน ใกล้วันสอบมิดเทอม ฉันโทรขอพรจากแม่และก็ได้ข่าวดีเพราะแม่บอกว่าพอฉันสอบเสร็จแม่จะพาฉันกลับบ้าน ฉันร้องไห้แต่เป็นน้ำตาแห่งความยินดี

ฉันไปรอรับแม่ที่ศาลาท่ารถ และทันทีที่เห็นแม่ก้าวขาลงจากรถฉันก็วิ่งเข้าไปหาแม่แล้วร้องไห้อย่างไม่อายคน แม่ดูผอมกว่าเดิมมาก แต่แม่ก็ยังสวย แม่ซื้อแอปเปิ้ลมาฝากฉันด้วยนะตั้งหลายลูก

ฉันไม่ยอมห่างแม่เลย ติดแม่แจ และไม่กี่วันแม่ก็ทำเรื่องย้ายโรงเรียนให้ฉัน ในตอนนั้นแม่บอกกับฉันว่าขอโทษที่ทิ้งฉันไว้

ฉันได้กลับมาเรียนที่เก่าและแม่ก็อยู่กับฉันด้วย แม่บอกว่าจะไม่ฝากฉันไว้กับใครอีก จะอดยังไงก็จะเลี้ยงลูกเอง
ไม่รู้ว่ามีใครบอกแม่หรือเปล่า แต่เหมือนแม่รู้ถึงความทุกข์ใจของฉันในตอนที่อยู่กับป้า

แม่ปั่นจักรยานไปส่งฉันที่โรงเรียนทุกวันเพราะมีจักรยานตราจระเข้เก่าๆแค่คันเดียวถ้าฉันเอาไปโรงเรียนแม่ก็จะไม่มีใช้ ทุกเช้าที่แม่ไปส่งฉันจะมีของใส่ตะกร้าจักรยานไปขายด้วย เป็นพวกผัก และข้าวคั่ว

วันหยุดแม่ก็พาฉันไปเก็บไหลบอน งมหอย มาขาย ห่อข้าวกลางวันไปกินด้วยนะ ฉันกินข้าวกับแม่ใต้ต้นหว้า แม่บอกฉันว่า ตั้งใจเรียน เรียนไว้มากๆโตขึ้นจะได้ไม่ลำบาก

แม่เป็นผู้หญิงที่เก่งที่สุดในโลก แม่ฉันไม่ได้เรียนหนังสือแต่ความจำดีมาก แกเขียนได้แต่ชื่อและนามสกุลของตัวเองแค่นั้น ไปไหนแกก็ถามคนที่เขาเป็นหนังสือ แม่บอกว่า “หอยเดินทางกับปาก ดังนั้นเราก็ถามเขาเอามันไม่หลงหรอก”

ก็จริงอย่างแม่ว่าแม่ก็ไปได้ทุกสารทิศจริงๆ เก่งใช่ไหมล่ะแม่ของฉัน

แม่


ผักมัดใหญ่ๆที่แม่ใส่ตะกร้าเดินขายตามหมู่บ้าน ฉันเดินตามแม่ไปด้วย ผ่านร้านค้าแม่ก็ซื้อขนมให้ แค่ปีโป้สองอันฉันก็ดีใจแล้ว แม่บอกให้ค่าเดิน
ตอนกลับแม่เห็นเศษไม้ลำปอเล็กๆตามข้างทางก็แวะเก็บมาด้วยเอาไว้เป็นเชื้อไฟ และได้ยอดตำลึงแถมมาด้วยกำใหญ่ กับข้าวมื้อเย็นของเราสองแม่ลูก

กับข้าวของแม่ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็อร่อยเสมอ แม่พลิกแพงวัตถุดิบได้อย่างเหลือเชื่อ หยิบโน่นนี่ มาใส่ปนกันก็อร่อย ฉันไม่ชอบกินปลาเล็กเพราะมันก้างเยอะ แม่ก็เอาไปย่างจนกรอบแล้วตากแดดให้แห้งแล้วเอามาสับจนละเอียดเป็นปลาบ่นให้ฉันคลุกข้าวกินและฉันก็ชอบด้วย ลูกตำลึงที่ไม่มีใครกินแม่ก็เก็บมา ผ่าเอาเม็ดออกแล้วผัดใส่ไข่ให้ฉันกิน


ในตอนเช้า แม่หุงข้าวหม้อดินแล้วรินน้ำข้าวใส่แก้วไว้ให้ฉัน ตอนเด็กฉันได้กินน้ำข้าวทุกวัน ใส่เกลือนิดแล้วใส่น้ำตาลก้อนโต หวานอร่อยมาก ปลาช่อนที่ติดจั่นแม่ก็ทาเกลือปิ้งเต็มไม้ ผักโขมต้มคือผักทีฉันโปรดปราณ
ส่วนแม่ตำน้ำปริกกินกับกล้วยดิบ

แม่สอนฉันร้องเพลง เพราะอยากให้ฉันร้องเพลงเก่งเหมือนกับแม่ ฉันแหกปากร้อง แต่แม่ดันบอกว่าเสียงของฉันเหมือนหมาเยี่ยวรดสังกะสี ดัง แจง แจง

ฉันซ้อมร้องอยู่หลายวัน แต่ก็ไม่ถูกจังหวะสักที ยิ่งร้องยิ่งเพี้ยน ทุกครั้งที่ฉันร้องแม่กลั้นขำทุกครั้ง

แม่ร้องให้ฟังเป็นตัวอย่าง เสียงของแม่หวานหยดฟังรื่นหู ฉันร้องคลอเสียงตามแม่ถูกบ้างผิดบ้างแต่ก็แถเนื้อเพลงไปเรื่อยจนจบเพลง


เศษพืชผลที่เจ้าของไร่ทำตกหล่นแม่ก็ไปขอเขา
เจ้าของไร่ใจดีให้เข้าไปเก็บ ไร่ข้างโพดแปลงใหญ่มีข้าวโพดเหลือมากแต่มันเป็นฝักที่ไม่สวย เจ้าของเขาไม่เอา แม่พากันเข้าไปเก็บ มันเยอะจนเก็บได้ครึ่งกระสอบ เจ้าของไร่แกคงเวทนาเราสองแม่ลูก แกเลยเอาแตงโมกับฟักทองให้อีก

ข้าวโพดที่เก็บมาแม่เอามาแทะออกจากฝักแล้วเอาไปตาก ทิ้งไว้หลายแดดพอแห้งก็เอามาตำเป็นแป้งเก็บไว้ทำขนมและเอาไว้หุงเมื่อข้าวสารหมด สำหรับคนที่ไม่เคยจนจะไม่มีวันรู้หรอกว่ากว่าจะผ่านชีวิตในแต่ละวันมาได้มันยากลำบากแค่ไหน

ฉันจำรอยยิ้มของแม่ได้ ฉันคิดถึงแม่ และอ้อมกอดของแม่คือยาวิเศษ

แม่

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์