อื่นๆ
ประสบการณ์นักเรียนโรงเรียนประจำ
ประสบการณ์นักเรียนโรงเรียนประจำ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยนะคะว่าแต่ก่อนเราก็เรียนที่โรงเรียนไปกลับปกติจนถึง ม.3 จะสอบเข้า ม.4 เพื่อนก็ชวนไปสอบเข้าโรงเรียนประจำที่จังหวัดเลยเป็นโรงเรียนที่ให้ทุนกับเด็กทุกคนที่สอบเข้าได้ อยู่ท่ามกลางภูเขาและป่าไม้ ถูกล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติทำให้มีบรรยากาศที่สดชื่นและภูมิทัศน์ที่สวยงาม
เราไม่มีข้อมูลหรือรายละเอียดการสอบเข้าเลย เพื่อนที่เคยสอบเข้าตอน ม.1 แต่ไม่ติดก็เป็นคนแนะแนวทางให้ว่าต้องทำอะไรบ้าง ในตอนนั้นเราก็ไม่ได้กดดันตัวเองมากก็แค่อยากลองไปสอบดูละกันไม่ติดก็ไม่ป็นไรแต่ก็ขอให้ตัวเองทำเต็มที่สุด พอประกาศผลรอบสุดท้ายปรากฏว่าเราก็มีสิทธิ์ที่จะเข้าเรียนต่อ
ม.4 ที่นั่น คือความรู้สึกแรกเรามันดีใจมากๆนะเพราะเราคิดว่าหนึ่งในโรงเรียนดี ๆ ของหลายๆคนที่อยากจะสอบเข้าที่นี่ให้ได้เลยแหละ แต่เราคิดอีกแง่หนึ่งก็คือเราไม่เคยห่างจากบ้านห่างจากพ่อแม่ไม่เคยใช้ชีวิตในสังคมแบบนั้นมาก่อนเราเลยไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่สิ่งสุดท้ายที่เป็นเหตุผลทำให้เราเลือกที่จะมาเรียนที่นี่เลยก็คือ ’ความฝัน’ เพราะเราปรึกษาพ่อแม่และอ่านข้อมูลโรงเรียนรวมถึงเหตุผลหลาย ๆ อย่างร่วมกันทำให้เราตัดสินใจที่จะเข้ามาเรียนที่นี่ เราน่าจะได้ประโยชน์จากโรงเรียนแห่งนี้ไม่มากก็น้อยเลยซึ่งประโยชน์เหล่านั้นก็เป็นความรู้ที่สำคัญที่จะทำให้เราไปสู่ความฝันได้สำเร็จ
Advertisement
Advertisement
ตอนเด็ก ๆ ก็ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าจะได้อยู่โรงเรียนประจำแบบนี้เข้ามาแรก ๆ ก็กลัวมากอยู่นะเจอหอพัก เจอเพื่อน เจอคุณครูคุมหอพัก หลังจากเข้ามาชีวิตเราก็เปลี่ยนไปเยอะเลยเพราะปกติเราแบ่งเวลาเป็น 2 ส่วนก็คือส่วนที่อยู่โรงเรียนก็จะเจอเพื่อน ๆ และคุณครูพอกลับจากโรงเรียนก็เจอครอบครัวจากที่อยู่แต่บ้านนั่งทำการบ้าน ตอนนี้กลายเป็นหลังเลิกเรียนจะไปเดินเที่ยวกับเพื่อน เดินเล่นกับเพื่อน ให้อาหารปลา ออกกำลังกายหรือคุณครูนัดเรียนจนถึงค่ำ
วันแรกที่บ้านมาส่งเข้าหอพักพอตอนเย็นก็กลับบอกได้เลยว่าความรู้สึกแรกคือ คิดถึงบ้าน และเหงามากอาจจะเป็นเพราะเรายังไม่รู้จักใครเลยยังไม่มีเพื่อนเพราะต่างคนก็มาจากหลาย ๆ ที่ แม่ก็โทรมาหาบ่อยๆถามว่าเราเป็นยังไงบ้าง เราก็บอกแค่ว่าอยู่ได้แม่ไม่ต้องห่วง พอนานๆเข้าเราก็เริ่มรู้จักเพื่อนมากขึ้นทั้งในห้องเดียวกันและต่างห้องจากกิจกรรมต่างๆที่ทำร่วมกันที่ทางโรงเรียนจัดให้ สิ่งแรกที่เราคิดว่าทุกคนต้องทำเลยก็คือการปรับตัวทั้งเรื่องการใช้ชีวิตและเรื่องการเรียน เรื่องการใช้ชีวิตเราไม่ได้เครียดอะไรมากพอเรารู้จักกับเพื่อนหลาย ๆ คนแล้วการใช้ชีวิตที่โรงเรียนประจำถือเป็นเรื่องสนุกไปเลยเพราะเราได้ใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนตลอด 24 ชั่วโมง ทำอะไรด้วยกันหลาย ๆ อย่าง เจอทั้งสุขทั้งทุกข์ด้วยกันถือว่าเป็นช่วงชีวิตที่เข้มข้นและเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำสุด ๆ ไปเลย ตอนรับน้องเข้ามาใหม่ๆ ก็มีทั้งสนุกและน่ากลัวพี่ๆ บางคนก็วีนใส่ และสิ่งที่รุ่นพี่โรงเรียนเราเคร่งเลยก็คือมารยาท การเคารพคนที่อายุมากกว่า ใครเดินผ่านก็ต้องไหว้ถึงแม้จะไม่รู้จักก็ตาม รุ่นเราเคยโดนเรียกมาซ่อมหลายครั้งจากรุ่นพี่เพราะรุ่นพี่เขาจะเห็นพฤติกรรมต่าง ๆ ที่ไม่เหมาะสมของพวกเราเลยต้องเรียกมาปรับและว่ากล่าวตักเตือน แต่ไม่ว่าใครจะทำผิดก็ตามรุ่นพี่จะลงโทษทั้งรุ่น เราต้องรับผิดชอบด้วยกันไม่ทิ้งกันไว้คนเดียวถ้าสิ่งไหนที่เพื่อนทำไม่ถูกเราต้องเบอกกันและกัน สิ่งหนึ่งที่เราเรียนรู้ได้คือเราจะมีความสามัคคี รักพื่อน และผูกพันกับเพื่อนมาก ๆ พอเราเป็นรุ่นพี่ซะเอง ทำให้รู้ว่าที่รุ่นพี่วีนน้องสาเหตุคืออะไร ? อยากให้รุ่นน้องรักสถาบัน มีความสามัคคี รักเพื่อน
Advertisement
Advertisement
โรงเรียนประจำเราจะมีการจับพี่รหัสน้องรหัส และพี่บัดน้องมันทำให้เราสนิทกับรุ่นพี่และเพื่อนๆ ได้พร้อมๆ กัน มันมีความสุขมาก ๆ เราคิดว่าเราคิดถูกที่เรียนที่นี่ ที่หอพักจะมีไฟดับบ้าง น้ำไม่ไหลบ้างโรงเรียนประจำ เพื่อนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด รุ่นพี่เป็นที่ปรึกษาที่ดี ตอนเรามาแรกๆ บอกตรงๆ เลยค่ะว่าไม่อยากมาเลยสักนิดอยากกลับบ้านมากๆพออยู่ไปได้เทอมนึงเริ่มทำใจได้ พอผ่นไป 1 ปี จากไม่ชอบมากกลายเป็นรักมากๆ รักสถาบันนี้มากๆ ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากโรงเรียนทั่วไปแน่นอน
แต่ก็ถือว่าเคร่งกฎพอสมควร ต้องตื่น 05.30 ลงมาทานข้าวก่อน 07.00 น. เพราะจะมีครูหอพักจะกฏกริ่งให้ตื่นและมาปล่อยลงไปทานข้าว และภายในโซนนอนตัวเองก็ต้องเสร็จหมดทุกคนใครที่เคยตื่นสายคือไม่ได้เลยเพราะจะทำให้ทุกคนรอเรา ถ้าตื่นช่วงที่คนเยอะห้องน้ำก็จะเต็มก็ต้องต่อคิวรอไปยาว ๆ เลยแหละ ประถมนิเทศก็ได้เจออะไรใหม่ ๆ ได้ทำพิธีเทียน เดินไปทางเดินที่มีเทียนรอบๆมีกลัวบ้างเพราะรุ่นพี่ไม่ให้ลืมตา ให้กลับตาแล้วเกาะกันเดินไปร่วมพิธีเทียนมีร้องเพลง
Advertisement
Advertisement
การดำเนินชีวิตยังไง..วันธรรมดาก็ตื่นเช้ามา อาบน้ำ ไปโรงอาหาร กินข้าวเช้า เข้าแถว ขึ้นห้องเรียน พอเลิกเรียนแต่ละคนก็จะมีสถานที่ประจำ เช่น หอสมุด สนามกีฬา หรือบางคนก็ขึ้นหอ วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก็คือแล้วแต่คนเลยจะทำอะไรจะตื่นตอนไหนก็ได้ แต่เวลา 1 ทุ่มก็ต้องไปประชุมเหมือนเดิม
การอยู่ หอพักจะเป็นหอพักรวม นอนในห้องกับเพื่อนห้องเรียนตัวเองและห้องข้างปนกันแบ่งตามเลขที่ จะมีประชุมหอทุกวันเวลาหนึ่งทุ่มเพื่อเช็คชื่อนักเรียนกับสวดมนต์ซึ่งเป็นบทสวดชินบัญชร บอกเลยว่าแรกๆงานหนักมากเพราะรุ่นพี่มาสอบท่องชินบัญชรทุกวันบอกเลยว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะจำได้เร็วแต่ก็ไม่เกินความสามารถแน่นอน เวลาประชุมหอนี่ไม่แน่นอนแล้วแต่ความเหมาะสมของสถานการณ์
เสื้อผ้าที่ใส่ ถ้าเป็นชุดที่โรงเรียนให้ มีชื่อ เช่นชุดนักเรียน ชุดพละ ชุดนอน ก็จะมีถุงรวมเสื้อผ้าไว้ แม่บ้านจะเป็นคนเอาไปซักให้เราเอง ส่วนชุดอื่นๆเช่นชุดเล่น หรือชุดชั้นในอันนี้เราซักเองนะ จะซักมือเองหรือเอาไปหยอดเหรียญซักเครื่องก็ได้ ใช้เหรียญ 10 หยอดนะ
การกิน เรื่องกินข้าวนี่จะมีบัตรให้สแกน เราเรียกกันว่าบัตรแคชการ์ด จะมีเงินให้กินให้ใช้วันละร้อยครับเงินจะเข้าเป็นเดือนๆ ถ้าเหลือก็เก็บไว้ใช้ต่อได้ครับ ถ้าไม่พอใช้ก็ใช้เงินตัวเองในโรงอาหารจะมีร้านขายอาหาร เครื่องดื่ม ผลไม้ แล้วก็จะมีมินิมาร์ทที่พวกเราเรียกกันว่าร้านน้าไก่ขายขนมต่าง ๆ โรงอาหารจะเปิดเวลาเช้า เที่ยง เย็น แล้วปิดหกโมงเย็นทุกวัน เวลาเรียนไม่เปิดนะ สำหรับคนไหนที่แอบครูไม่ลงมาเข้าแถวคือก็ต้องอดกินข้าวเช้าเลย
การเรียน
ห้องละ 24 คนนี้คงรู้แล้วนะ เวลาเรียนคาบต่าง ๆ บางวิชาก็เรียนในห้องเรียน บางวิชาก็มีเรียนห้องเฉพาะเช่นห้องแลป ห้องคอม เหมือนโรงเรียนทั่วไป แต่เรียนนอกห้องนี่จะเยอะกว่าหน่อยเพราะโรงเรียนเราเน้นไปที่วิทย์ คณิต เทคโนโลยี และส่วนมากวิชาเหล่านี้จะมีห้องเรียนเป็นของตัวเอง
หลังเลิกเรียน
ในโรงเรียนก็มีสถานที่ต่าง ๆ ค่อนข้างเยอะนะ ฟิตเนส ห้องสมุด สนามกีฬา บาส วอลเล่ ฟุตซอล ฟุตบอล ปิงปอง แบต หรือบางคนหอคือสิ่งที่เลือกที่จะไปหลังเลิกเรียนเลยแหละ แล้วแต่เราจะเลือกเล่นเลือกไปที่ไหน บางครั้งช่วงใกล้สอบมีบางวิชาที่ครูสอนไม่ทันคุณครูก็จะนัดสอนหลังเลิกเรียน
การกลับบ้าน
การกลับบ้านแต่ละครั้งทางโรงเรียนจะมีปฏิทินการกลับบ้านโดยทางโรงเรียนจะกำหนดวันหยุดเพื่อให้เรากลับไปเจอครอบครัวซึ่งรุ่นเราจะกำหนดให้กลับบ้านได้ 2 เดือน/ครั้ง คือการกลับบ้านตามที่ปฏิทินโรงเรียนกำหนดนั้นนักเรียนทุกคนจะต้องกลับหมด ยกเว้นเเต่มีคุครูที่รับผิดชอบดูแล เช่น ทำวิจัย ทำโครงงาน แต่ในระหว่าง 2 เดือนนั้นเราจะกลับบ้านหรือออกไปข้างนอกโรงเรียนก็ได้แต่ต้องมีผู้ปกครองมารับและทำเอกสารให้เรียบร้อย
หวังว่าประสบการณ์นี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับคนที่ลังไม่รู้ว่าจะเรียนที่ไหนหรือต้องการรู้ความแตกต่างของโรงประจำ คงจะช่วยเป็นแนวทางในการตัดสินใจของหลาย ๆ คนนะคะ
ความคิดเห็น