อื่นๆ

เครือเขาหลง

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เครือเขาหลง

สืบเนื่องจากเรื่องที่แล้วที่ผมได้เล่าไปอย่างเรื่อง “อาถรรพ์ผีบังตา” ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้นในป่า (ใครที่ยังไม่ได้อ่านเรื่องนี้ ไปตามหาอ่านกันได้) มาคราวนี้ผมก็ได้นำเรื่องราวลี้ลับเกี่ยวกับป่ามาฝากกันอีกเช่นเคย แต่เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้เป็นคนละเรื่องกัน ไม่ใช่ตอน  2 แต่อย่างใด เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มเรื่องกันเลยดีกว่า ย้อนไปเมื่อสมัย 16-17 ปีที่แล้ว ในหมู่บ้านของผมจะมีเรื่องเล่าเรื่องเล่าหนึ่ง ที่เล่าเกี่ยวกับภูเขาลูกหนึ่งที่ว่ากันว่ามีเครือเขาหลงซุกซ่อนอยู่ เครือเขาในที่นี่หมายถึงเถาวัลย์หรือแปลตรงตัวก็คือ "เถาวัลย์หลง" นั่นเอง ซึ่งใครก็ตามที่เข้าไปหาของป่าที่ภูเขาลูกนี้ก็มักจะหลงและหาทางออกไม่เจอ แต่เกือบทุกคนที่หลงก็จะหางทางออกมาได้ในที่สุด

Advertisement

Advertisement

แต่มีอยู่เคสหนึ่งที่ดูเหมือนจะหนักกว่าเคสอื่นๆ เป็นเคสที่เล่นเอาวุ่นกันทั้งหมู่บ้าน เคสที่ว่านี้เป็นเคสของป้าเพียร (นามสมมุติ) ก่อนอื่นผมขอท้าวความถึงที่มาที่ไปของเรื่องนี้กันก่อน หมู่บ้านของผมนั้นจะมีช่วงๆหนึ่งที่ชาวบ้านนิยมออกไปหาหน่อไม้ป่ากัน ทั้งหามากินเองในครัวเรือน และหามาต้มอัดใส่ถุงขาย ซึ่งมันสามารถที่จะสร้างงานสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในชุมชนได้เป็นอย่างดี อยู่มาวันหนึ่งซึ่งเป็นช่วงฤดูการที่ชาวบ้านนิยมพากันออกหาหน่อไม้ ซึ่งป้าเพียรก็เป็นหนึ่งในนั้น วันนั้นแกก็ออกไปหาหน่อไม้ของแกตามปกติ แต่แกไปในช่วงที่ใกล้ๆจะเย็นแล้ว เพราะวันนั้นแดดและอากาศในตอนกลางวันค่อนข้างร้อนจัด แต่จากประสบการณ์วันก่อนๆที่แกไปหาหน่อไม้มา หน่อไม้ตรงจุดที่แกไปหาวันก่อนไม่ค่อยมีหน่อให้หักแล้ว (หัก,หา = เก็บ) เพราะเป็นช่วงที่ชาวบ้านต่างพากันแย่งกันหา เลยถูกตัดหน้าหาไปก่อน ป้าเพียรเลยเปลี่ยนสถานที่โดยเข้าไปหาในที่ที่แกคิดว่าคนไปกันน้อยเพราะกลัวหลง ซึ่งสถานที่นั้นก็คือภูเขาลูกที่ชาวบ้านร่ำลือกันว่ามีเครือเขาหลงซุกซ่อนอยู่

Advertisement

Advertisement

ซึ่งตอนนั้นแกคิดว่าคงไม่เป็นไรแกคงไม่ใช่คนที่ซวยขนาดนั้น แถมก่อนจะออกมาแกก็ได้บอกกับคนแถวบ้านให้รู้แล้ว จริงอยู่ที่ภูเขาลูกนี้คนมักจะหลงกันแต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะหลง ส่วนคนที่หลงก็จะหาทางออกมาได้ในที่สุด แต่เรื่องราวมันกลับไม่เป็นอย่างที่แก่คิด แกหลงทางอยู่ในป่าและเดินหาทางออกอยู่พักใหญ่ แกเดินหาเท่าไหร่ก็หาทางออกไม่เจอ บางครั้งก็ดูเหมือนจะเดินวนกลับมายังจุดๆเดิม เวลาได้ผ่านล่วงเลยไปจนพระอาทิตย์ตกดิน ตอนนั้นแสงสว่างเริ่มร่อยหรอลงทุกขณะ แต่ป้าเพียรแกก็ยังไม่ลดละความพยายาม แกก็เดินหาทางออกของแก่เรื่อยๆโดยอาศัยแสงจากดาวจากเดือนที่พอจะทำให้มองเห็นอะไรอยู่บ้าง เวลาผ่านล่วงเลยพักใหญ่ความซวยยังไม่หมดอยู่แค่นั้น จู่ไม่รู้เป็นเพราะอะไรคราวนี้แสงจากดาวแสงจากเดือนที่เคยมี เหมือนมันค่อยๆวูบดับลงไปจนมืดดับสนิท

Advertisement

Advertisement

มืดชนิดที่ว่าต้องใช้มือคลำทาง ในสภาพแวดล้อมแบบนี้แกเริ่มท้อใจ และร่างกายของแกก็เริ่มเหนื่อยมากแล้ว แกเลยยอมตัดใจและกะว่าจะไปหาที่นั่งพักและรอให้คนที่บ้านตามคนมาช่วย แต่ตรงที่ที่แก่อยู่พื้นตรงนั้นค่อนข้างรกไปด้วยหญ้า แกเลยกลัวว่าจะโดนสัตว์หรือแมลงมีพิษกัดเอา แกเลยคลำทางไปเรื่อยๆจนเจอเข้ากับท่อนไม้ประหลาดขนาดใหญ่ท่อนหนึ่ง ซึ่งจากคำบอกเล่ามันอาจจะเป็นสิ่งที่ดูเกินจริงไปหน่อย แต่แกก็ยืนยันกับคนที่แกเล่าให้ฟังว่าแกเจอมาแบบนั้นจริงๆ โดยท่อนไม้ประหลาดนี้เป็นท่อนไม้ขนาดใหญ่ที่มีรูกลวงตรงกลาง และตรงรูกลวงนั้นมีแสงสว่างเสมือนมีหลอดไฟอยู่ข้างใน ซึ่งแกเล่าว่ามันสว่างอยู่แค่ตรงรูท่อนไม้ท่อนนั้น ตอนนั้นแกรู้ว่ามันแปลกๆ แต่ด้วยความที่แกเหนื่อยมากบวกกับความกลัวสิ่งต่างๆที่มองไม่เห็นในความมืด แกเลยตัดสินใจเข้าไปนั่งรอคนที่จะมาช่วยอยู่ในรูกลวงของท่อนไม้ท่อนนั้น

ตัดสลับมาที่บ้านของป้าเพียรหลังจากที่ลูกๆของแกกลับมาจากการไปรับจ้าง เมื่อเวลาผ่านล่วงเลยไปจนดึก ลูกๆของป้าเพียรเริ่มรู้สึกผิดสังเกตว่าดึกขนาดนี้แล้วทำไมป้าเพียรยังไม่กลับบ้าน ลูกๆของแกเลยไปถามคนในระแวกบ้านว่าเห็นป้าเพียรบ้างไหม เพื่อนบ้านเลยเล่าให้ฟังว่าป้าเพียรไปหาหน่อไม้ที่ภูเขาลูกนั้น หลังจากที่คุยกันจบ ลูกๆของแกเริ่มรู้สึกไม่ดีกลัวว่าป้าเพียรจะหลงหรือเป็นอะไรไปอยู่ในป่า ลูกๆของแกเลยไปขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่บ้าน แม้ว่าตอนนั้นจะดึกมากแล้วสำหรับต่างจังหวัด แต่ด้วยความที่ลูกๆของป้าเพียรดูกังวลมาก ผู้ใหญ่จึงใช้เสียงตามสายประกาศขอความร่วมมือจากคนในหมู่บ้าน เพื่อตั้งทีมค้นหาป้าเพียร

พอรวมตัวกันเสร็จซึ่งมีคนมาช่วยกว่า 50 คน ทุกคนก็เดินทางไปยังภูเขาลูกนั้นเพื่อหาป้าเพียร โดยแต่ละคนมีไฟส่องกบกันคนละอัน โดยการหาครั้งนี้จะแบ่งเป็นคู่ๆให้เดินหาไปด้วยกัน เมื่อแบ่งคู่เสร็จทุกคนก็เริ่มออกเดินหาพรางตะโกนเรียกชื่อป้าเพียรอยู่พักใหญ่ แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอแถมไม่มีเสียงใดๆตอบรับจากป้าเพียร ทางทีมค้นหาจึงเรียกรวมตัวกันเพื่อวางแผนค้นหากันใหม่ จากนั้นจู่ๆก็มีคนหนึ่งในทีมค้นหาเสนอความคิดเห็นว่า ลองให้คนหาธูปหาเทียนมาจุดบอกกล่าวเจ้าป่าเจ้าเขาลองดู เผื่อจะมีสิ่งที่มองไม่เห็นบังตาอยู่ ซึ่งคนอื่นก็เห็นด้วยและได้ทำตามความคิดเห็นนั้น

จากนั้นทุกคนก็พากันวางแผนใหม่ และออกเดินตระเวนค้นหาป้าเพียรกันอีกครั้ง เวลาผ่านไปไม่ถึง 20 นาที ก็มีเสียงตะโกนดังลั่นว่า "เจอป้าเพียรแล้ว" ซึ่งคนที่เจอเล่าว่าป้าเพียรแกได้ยินเสียงเรียกเลยตะโกนกลับเขาเลยตามเสียงไปจนพบป้าเพียรนั่งอยู่ในรูของท่อนไม้ขนาดใหญ่ แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนมึนงงคือแค่จากตรงจุดนั้น ทำไมป้าเพียรไม่ยินเสียงที่พวกเขาเรียกตั้งแต่ตอนแรก หลังจากนั้นก็ได้มีการคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ป้าเพียรก็ได้เล่ารายละเอียดต่างๆที่เจอมา พร้อมกับตอบข้อสงสัยว่า แกไม่ได้ยินเสียงใครเรียกเลยก่อนหน้านี้ และที่แกไปนั่งรออยู่ในนั้นเพราะข้างนอกมันมืดมากจนมองไม่เห็น และที่ตรงนั้นก็มีแสงสว่างป้าเพียรเลยคิดว่าคนอื่นคงหาเจอได้ง่ายๆ

ซึ่งจากเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ก็เป็นสิ่งที่น่าฉงนว่าทำไมเคสป้าเพียรถึงเจอเหตุการณ์ที่หนักกว่าเคสของคนอื่นๆ แกไปทำอะไรไม่ดีตอนอยู่ในป่าหรือเปล่า หรือนั่นเป็นเพราะอิทธิฤทธิ์ของเครือเขาหลงอย่างที่ใครๆเขาร่ำลือกัน แต่ตอนที่ป้าเพียรแกได้เล่าให้คนอื่นๆฟัง ป้าเพียรแกก็ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ตัวแกไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ดีหรือพูดอะไรที่เป็นการหลบหลู่ดูหมิ่นเจ้าป่าเจ้าเขาแต่อย่างใด

Photo credit: DarkWorkX,Jazella

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์