พระเจอผี

          ในสมัยเด็กๆ พอมีใครสักคนเล่าเรื่องผีให้ฟัง หรือ ถ้าถามว่าจะเอาอะไรไปสู้กับผี คำตอบที่ได้ถ้าไม่ใช่หมอผีก็เป็น พระ ใช่ไหมครับ แล้วเคยสงสัยไหมครับ ว่าทำไมผีต้องกลัวพระ แล้วพระจะจัดการกับผีได้อย่างไร มันนี้ผมมีเรื่องของพระใหม่มาเล่าให้ฟังครับ 

          ในแต่ล่ะปีก่อนเข้าพรรษา เราจะเห็นหลายๆที่จัดงานบวช ทั้งบวชลูกบวชหลาน ตามความเชื่อถ้าลูกหลานบวชให้ จะได้เกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ บางคนต้องทำงานไม่มีเวลา ก็จะบวช 7 วัน หรือ 15 วัน เป็นต้น หรือบางคนก็จะบวชเพื่อเรียนรู้พระธรรมก็จะเข้าพรรษาสัก 1 พรรษา เพื่อเป็นการตอบแทนค่าน้ำนมและทำให้คุณพ่อคุณแม่มีความสุข พระใหม่ก็เช่นกัน เมื่ออายุได้ครบบวชจึงตัดสินใจลาญาติผู้ใหญ่ เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดป่าแห่งหนึ่ง

          พระใหม่ได้ไปอยู่กุฏิหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหลวงพ่อมากนัก แต่จะอยู่ในป่าใกล้ๆ กับเชิงตะกอนที่ใช้เผาศพ  ซึ่งพระวัดป่าจะไม่จำวัดรวมกันกับพระรูปอื่นๆ จะจำวัดในกุฏิหลังเล็กๆ ของตัวเองเท่านั้น ในพรรษาอากาศในป่าก็จะชุ่มชื่นและเย็นเพราะฝนตก ทุกเช้าพระใหม่จะตื่นขึ้นมาตั้งแต่ตี 4 เพื่อตีระฆังเป็นประจำทุกวัน และทำวัตรเช้าเตรียมตัวออกบิฑบาต พระใหม่ ตั้งใจเรียนรู้หลักพระธรรมคำสั่งสอน ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเชื่อฟังคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์อย่างเคร่งครัด

        เสียงเคาะประตูดังขึ้น ปัง ปัง ปัง พระใหม่ ท่านจำวัดหรือยัง พระใหม่โล่งอกเสียงที่เดินมาแล้วเคาะประตู คงจะเป็นโยมที่อยู่แถววัดแน่ๆ พระใหม่เปิดประตูโยมคนนี้หน้าตาไม่ค่อยคุ้นเลย โยมบอกว่าศพที่เผาเมื่อช่วงเย็น ฟืนน่าจะไม่พอ จะให้ไปช่วยเติมฟืนหน่อย ได้ยินอย่างนั้นพระใหม่ก็ขาอ่อนลงทันที กลัวก็กลัวจะบอกหลวงโยมยังไงดี จะไม่ไปได้ไหม โยมย้ำต่อว่าให้ตามออกไปที่เชิงตะกอนนะ เสียงโยมกำลังเดินออกไป พระใหม่จึงรีบออกจากกุฏิแล้วเดินตามโยมไป เพราะยังไงก็ดีกว่าเดินไปคนเดียว

       พระใหม่พยายามทำใจดีสู้เสือ ช่วยโยมเติมฟืนจนเสร็จเรียบร้อย แล้วจึงกลับมาจำวัดตามเติมกำลังจะปิดไฟก็ได้ยินเสียงเดินเข้ามาอีก ได้ยินเสียงหลวงพ่อเรียก จึงรีบลุกขึ้นเปิดไฟแล้วเปิดประตูออกมา หลวงพ่อถามว่าเมื่อสักครู่นี้ ออกไปไหนมารึ พระใหม่ตอบมีโยมมาตามให้ไปช่วยเติมฟืนครับ หลวงพ่อถามแล้วตอนนี้โยมไปไหนแล้วล่ะ พระใหม่ตอบพอเติมฟืนเสร็จก็เห็นเดินไปทางหลังวัดครับ

       หลวงพ่อบอกว่า งั้นท่านจำวัดเถอะถ้ามีใครมาเรียกอีกก็ไม่ต้องเปิดประตูนะ แล้วช่วงเช้าหลังจากบิณฑบาตเสร็จมาหาหลวงพ่อที่กุฏินะ พระใหม่ใจเต้นแรงขึ้น สิ่งที่หลวงพ่อพูดเมื่อสักครู่นี้มันคืออะไร ขนก็ลุกไปทั้งตัว คืนนั้นพระใหม่หลับไม่ลงแม้แต่น้อย คิดทบทวนแล้วรู้สึกกลัวขึ้นมาทันที เสียงลม เสียงนก ก็ชวนให้คิดไปต่างๆ นาๆ

          หลังจากที่บิณฑบาตเสร็จ พระใหม่จึงไปหาหลวงพ่อ หลวงพ่อจึงเล่าให้ฟังว่า เห็นพระใหม่เดินไปที่เชิงตะกอนดูเหมือนว่ากำลังคุยกับใครสักคนและจึงชี้ไปที่รูป รูปหนึ่งที่ติดไว้ที่ผนังแล้วถามว่า คนที่มาบอกให้ไปช่วยเติมฟืน ใช่คนในรูปนี้หรือเปล่า พระใหม่ตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ใช่ครับ หลวงพ่อเล่าให้ฟังต่อว่า เขาเป็นสัปเหร่อที่เคยดูแลความเรียบร้อยที่วัดนี้ อยู่มาวันหนึ่งมีชาวบ้านนำร่างหญิงตายท้องกลมมาเผาที่นี่ สัปเหร่อจึงเฝ้าดูจักการเผาเป็นอย่างดี เช้ามามีคนไปพบว่าเป็นศพ นั่งเสียชีวิตหลังพิงเชิงตะกอน ชาวบ้านจึงลือไปต่างๆ นาๆ ว่าผีตายท้องกลมคงโกรธเพราะสัปเหร่อแกเป็นคนที่ปากไม่ดี คงจะเผลอไปด่าผีเข้า เขาจึงหักคอตาย

          หลังจากนั้น เมื่อมีพระใหม่มาจำวัดที่นี่ มีคนตายและมาเผาที่นี่ มักจะเจอลุงสัปเหร่อมาขอให้ไปช่วยเติมฟืนอยู่เสมอ แต่ก็ไม่ได้ทำร้ายใครนะ พระใหม่ได้ยินเช่นนั้น หน้าถอดสีทันที เมื่อคืนเราอยู่กับผีหรือเนี้ย กลัวก็กลัวไม่กล้าจะมองไปที่เชิงตะกอนอีก เป็นทั้งที่เผาศพและยังมีคนตายอยู่ที่นั่นอีก หนำซ้ำคนที่ตายก็ยังวนเวียนอยู่ อีกใจหนึ่งก็คิดสงสารลุงสัปเหร่อ จึงอธิฐานจิตอุทิศส่วนบุญกุศลไปให้ คืนนั้น จึงฝันเห็นลุงสัปเหร่ออีกครั้ง มายิ้มๆแล้วไม่พูดอะไร คิดว่าคงได้รับส่วนบุญแล้ว

           หลังจากวันนั้น พอตกเวลากลางคืน พระใหม่ก็ไม่กล้าออกไปไหนหรือเปิดพระตูรับใครอีกเลยและก็ไม่ได้ฝันเห็นลุงสัปเหร่ออีก ทุกอย่างรอบๆตัวเงียบสงบดูเป็นปกติ ไม่น่ากลัววังเวงเหมือนที่ผ่านมา หรือว่าจะเป็นเพราะลุงสัปเหร่อมาเพียงเพื่อขอส่วนบุญเท่านั้น...

ภาพโดย Hans Braxmeier จาก Pixabay