การสอนในชั้นเรียน VS. การสอนพิเศษ

สวัสดีครับดีครับ ผมชื่ออาร์ตนะครับ วันนี้ผมจะมาแชร์เรื่องราวต่างๆที่สอนในชั้นเรียน และสอนพิเศษที่สอนเน้นๆแบบตัวต่อตัวเลย

1.การสอนในชั้นเรียน (ภาษาอังกฤษ)

การสอนในชั้นเรียนในปัจจุบัน แต่ละระดับช่วงชั้น ตั้งแต่ประถมศึกษาไปจนถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (เฉพาะวิชาภาษาอังกฤษเท่านั้นนะครับ) จากที่เคยสอนมาหลายๆระดับชั้น ทำให้ทราบว่า นักเรียนส่วนใหญ่อ่านภาษาอังกฤษไม่ออกเลย เนื้อหาที่เรียนนักเรียนไม่สนใจการเรียนสักเท่าไหร่ มีน้อยคนมากที่จะต้องใจเรียนและใส่ใจในวิชาภาษาอังกฤษจริงๆ แต่ผมมองว่าการสอนภาษาอังกฤษหลายๆแห่งในปัจจุบันส่วนใหญ่ยังใช้การเน้นแบบการจำอยู่ เน้นไว้ยากรณ์มากๆเลย ทำให้นักเรียนหลายๆคน เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง จนเกิดแนวขึ้นในหัวของนักเรียนส่วนใหญ่ว่า “จะเรียนให้มันปวดหัวทำไมครู ตั้งใจฟังก็ไม่เข้าใจอยู่ดี” ผมได้ศึกษาหาข้อมูลมานานมากๆครับ แต่ก็ยังไม่เข้าใจหมดหรอกนะครับ การสอนโดยวิธีการจำมีมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้วครับ ซึ่งผมมองว่ามันเป็นการเรียนที่ดีอีกแบบหนึ่งเลย แต่มันใช้กับทุกคนไม่ได้ เพราะการเรียน หรือความชอบของแต่ละบุคคลนั้นมันต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลย ดังนั้นจนเกิดกระบวนการเรียน การสอนแบบใหม่ๆขึ้นมาตลอดเลยครับ แต่ก็ยังไม่ทำให้การสอนภาษาอังกฤษในปัจจุบันประสบผลสำเร็จเลย เพราะฉนั้นผมจึงอยากจะขอแชร์หรือแบ่งปั่นการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เน้นจริงๆนะครับ ประการที่ 1 เราจะต้องสำรวจแยกนักเรียนออกเป็น 3 กลุ่มก่อน เก่ง กลาง อ่อน (จะเกิดคำถามขึ้นว่าจะวัดจากอะไรว่าเด็กเก่ง กลางอ่อน?) ให้เอาบททดสอบที่ผ่านกระบวนการคัดกรองผ่านผู้เชี่ยวชาญมาแล้วให้นักเรียนทำ หลังจากนั้นจะได้ผลลัพธ์ออกมาครับ ถัดมาการสอนจะให้นักเรียนสอนกันเองโดยกระจายคนเก่ง กลางและอ่อนออกเป็นกลุ่มๆ เน้นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เกิดทักษะ เช่นการแชร์ข้อมูลส่วนตัวของตัวเองโดยเริ่มจากประโยคพื้นฐาน ครูจะคอยสังเกตนักเรียนแต่ละคน คนเก่งจะช่วยคนอ่อน เป็นต้น แต่ถ้าเป็นการสอนในเรื่องของไวยากรณ์ แน่นอว่ามันมีเยอะและต้องจำเยอะ ซึ่งในปัจจุบันมีคลิปการสอนที่ใช้การจำแบบเพลง หรือครูจะต้องสอนที่เน้นตลก ออกนอกเรื่องบ้างบางเวลา ให้เด็กไม่เครียดจนเกินไป หรือครูจะแต่งตัวให้เข้ากับเรื่องที่จะสอนเพื่อดึงดูดความสนใจของนักเรียน ดังนั้นการสอนในชั้นเรียนจะต้องมีกิจกรรมที่หลายหลาก ไม่ซ้ำใคร เน้นกิจกรรม เน้นให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการตอบคำถามหรือกิจกรรมให้ได้มากที่สุด เพราะว่าความแตกต่างและความหลากหลายของนักเรียนไม่เหมือนกัน และที่สำคัญมันยากที่จะทำให้นักเรียนทุกคนในชั้นเรียนเข้าใจตรงกันได้

สุดท้ายนี้ผมหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์แก่ผู้อ่านนะครับ

ช่องทางการติดต่อ IG: artkungcute