อื่นๆ

เด็กวัด สุดหลอน

140
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เด็กวัด สุดหลอน

.

เด็กวัด สุดหลอน

เมื่อตอนสมัยเด็ก​ ๆ​ ผมเคยเป็นเด็กวัด ซึ่งการที่เราเป็นเด็กวัดนั้น แน่นอนเราก็ต้องช่วยงานหลาย​ ๆ​ อย่างให้กับทางวัด

แล้วมีอยู่คืนหนึ่ง ช่วงเวลาก็ประมาณ 2 - 3​ ทุ่มน่าจะได้ หลวงพี่ท่านก็ใช้ให้ผมเดินไปเอาบาตรที่ศาลาวัด​ เพื่อจะที่จะนำมาล้าง ซึ่งศาลานี้ก็อยู่ห่างจากกุฏิของหลวงพี่ประมาณ 100 เมตร

ลองนึกภาพตามกันดูนะครับ เป็นภาพของวัดที่อยู่ในชนบท​ ห่างไกลความเจริญ​ อยู่จังหวัดสุรินทร์ ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ต้นใหญ่​ ๆ​ บริเวณโดยรอบ​ และท่ามกลางความมืดนี้...ก็เต็มไปด้วยเสียงจิ้งหรีด​ร้องกันดังระงม​ไปทั่ว  อีกทั้งด้านข้าง​ศาลานั้น​ ก็ยังเป็นป่าช้ามืด​ ๆ ที่เต็มไปด้วยวิญญาณมากมาย​ บรึ๋ย...กลัวนะครับ​ แต่ก็ต้องไป

เข้าเรื่องกันดีกว่า และในขณะที่ผมกำลังเดินไปที่ศาลาเพื่อจะเอาบาตรมาให้หลวงพี่นั้น จู่​ ๆ ก็มีแมวดำตัวใหญ่วิ่งตัดหน้าผมไป ถามว่าตกใจมั้ย...ตกใจนะครับ​ แต่ด้วยความที่ยังเด็กก็ยังไม่คิดอะไรมาก จนเมื่อเดินมาถึงศาลา​ ก็เข้าเปิดไฟ แล้วเดินไปเอาบาตรของหลวงพี่ซึ่งวางอยู่ด้านใน เมื่อหยิบเสร็จก็เดินออกมา​ และในขณะที่กำลังจะปิดไฟศาลาเพื่อเดินกลับนั้น ผมรู้สึกได้กลิ่นกลิ่นหนึ่ง​ ซึ่งมันเหม็นมาก...จนผมต้องเอามือปิดจมูกไว้ มันเหม็นเหมือนกลิ่นศพที่ถูกทิ้งไว้นานจนขึ้นอืดเลยครับ ทำไมผมถึงมั่นใจว่าเป็นกลิ่นศพน่ะเหรอ ก็เพราะผมเคยเข้าไปเวลาที่เขามีพิธีล้างป่าช้า ศพที่ตายโหง เขาก็จะขุดขึ้นมา แล้วกลิ่นก็จะเหม็นเน่า

Advertisement

Advertisement

พอปิดไฟเสร็จ...ก็รีบเดินออกมา​ เพื่อที่จะเอาบาตรไปล้างที่ด้านข้างกุฏิ ในขณะที่เดินอยู่นั้น​ ผมรู้สึกว่าบาตรที่ผมอุ้มอยู่นั้น มันเริ่มหนักขึ้นเรื่อย​ ๆ ทีนี้ก็เริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีละ จึงตัดสินใจวางบาตรลงที่พื้น​ แล้วก็รีบวิ่งไป ยืนตั้งสติที่หน้ากุฏิ ครั้นจะเข้าไปบอกหลวงพี่ก็กลัวจะโดนดุเอา...พอตั้งสติได้​ ก็จึงตัดสินใจรีบวิ่งกลับไปอีกรอบ พออุ้มบาตรขึ้นมาได้​แล้ว...ก็รีบวิ่งหน้าตั้งกลับไปยังกุฏิ

แต่ทันใดนั้นเอง แมวเจ้ากรรมตัวเดิม​ ก็ดันวิ่งมาตัดหน้าผมอีกรอบ​ แต่คราวนี้มันทำให้ผมเสียหลักล้มลง... ร่างของผมลงไปกองอยู่กับพื้น ตอนนั้นสติเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวละ "แค่ไปเอาบาตรให้หลวงพี่ ทำไมมันรู้สึกว่ายากเย็นเหลือเกิน" จากนั้นผมก็รีบตะเกียกตะกายลุกขึ้นมา​ แล้วอุ้มบาตรวิ่งหน้าตั้งต่อไป

เมื่อมาถึงข้างกุฏิ​ ก็ก้มหน้าก้มตารีบล้างบาตรอย่างลุกลี้ลุกลน สักพัก... ผมรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว คือเย็นแบบขนลุก ทั้งที่อากาศในช่วงนั้นมันก็ร้อนอบอ้าว และในขณะที่รีบล้างบาตรอยู่นั้น​ จู่​ ๆ​ ผมก็ได้ยินเสียงวี๊ด... ดังขึ้นมาทางด้านหลัง​ เท่านั้นแหละครับ พอผมหันไป​ ก็เห็นเป็นเงาเหมือนผู้ชาย ร่างสูง...มาก สักประมาณ 10 เมตรน่าจะได้ กำลังยืนจ้องมาที่ผม สิ่งเดียวที่ผมรู้ในตอนนั้นคือ​ กูโดนเข้าแล้ว​ ผมได้แต่ยืนช็อค ตาเบิกกว้าง​ ยืนสั่นไปทั้งตัว​ จะวิ่งมันก็วิ่งไม่ได้​ และด้วยความช็อคมันคงทำให้ผมหมดสติลง​ เพราะผมมารู้สึกตัวอีกทีตอนสายๆของอีกวัน

Advertisement

Advertisement

พอลืมตาขึ้นมาก็เจอคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้าน และพระในวัดมาห้อมล้อมรอบตัวผมเต็มไปหมด​ หลังจากผมได้สติฟื้นขึ้นมา​ เขาก็ได้พาผมไปทำพิธีเรียกขวัญกลับมา เสร็จสิ้นพิธี...หลวงพี่เลยถามว่า "เมื่อคืนไปนอนทำไมที่ข้างศาลา ตามหาตั้งนาน ปลุกก็ไม่ตื่น"

งงไหมครับกับคำถามของหลวงพี่ ?

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์