อื่นๆ
ความวุ่นวายในสังคม
สภาพสังคมที่วุ่นวาย
เคยไหมที่กำลังนั่งทานข้าวอยู่แล้วต้องหงุดหงิดเพราะโต๊ะข้าง ๆ เสียงดัง.... เคยไหมที่ขับรถอยู่บนถนนแล้วต้องสบถใส่มอเตอร์ไซด์ที่ขับปาดหน้า... เคยไหมที่ต้องลุกออกจาโรงหนังทั้ง ๆ ที่หนังกำลังสนุกเพียงเพราะเก้าอี้ข้างหน้าหรือข้างหลังขยับเบาะไปมา(โดยเฉพาะหัวคนข้างหน้าไม่เคยอยู่เฉยๆสักที) เคยบ้างไหมที่ต้องตื่นเช้าเพราะบ้านข้างๆ เสียงดัง ผู้เขียนขอตอบแทนทุกคนได้เลยว่า........เคย เพราะอะไรเราถึงต้องเจอเรื่องพวกนี้นะหร่อ วันนี้เรามาหาคำตอบกัน
ภาพโดย Free-Photos จาก Pixabay
เพราะคนเราเริ่มที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในสังคมไม่เป็น คือเห็นแต่ตัวฉันเป็นใหญ่ ฉันต้องถึงก่อน ฉันต้องได้ก่อนเพราะมารยาททางสังคมไทยมันบกพร่องไป นั่นคือ ฉันอยากทำอะไรที่ไหนก็ย่อมได้ โดยไม่คำนึงถึงผู้อื่น
ความเกรงอกเกรงใจหายไปจากใจ เมื่อก่อนเราจะถูกสอนให้เกรงใจคน แต่สมัยนี้ถ้าเกรงใจใครก็เหมือนคนล้มเหลวเพราะฉะนั้นเหยียบหัวมันไปเลย
ขาดความเห็นอกเห็นใจ อันนี้จะเห็นได้ชัดเจนในท้องถนนคือคนเราถ้ารู้จักเห็นอกเห็นใจกันจริง ๆ รถคงไม่ไปคากันตรงแยกไฟแดงเป็น
ยกคำว่า “สิทธิ”ของตนเป็นใหญ่ คงต้องยอมรับว่า เราจะได้ยินคำพูดบ่อย ๆ ว่า “จะทำอะไรก็สิทธิของฉัน” เอาจริง ๆ นะ ทำไปเลยถ้ามันไม่เดือดร้อนใคร ถ้าจะเริ่มทำรบกวนกลับไปอ่านข้อ 3. + ข้อ 4. มาก่อน ภาพโดย Free-Photos จาก Pixabay
คำว่ามนุษย์ป้าเป็นปัญหาสำคัญ คนไทยเดียวนี้ใครทำอะไรที่ผิดแปลกออกไปหรือ ไม่พอใจอะไรก็จะเอาอารมณ์เป็นใหญ่(พวกมนุษย์ป้า) เพราะเหตุนี้จึงทำให้วัยรุ่นบางคนเริ่มไม่ให้ความเคารพผู้ใหญ่อีกต่อไป
จากข้อ 6. เรื่องความเคารพ ตอนนี้เด็ก ๆ ที่ถูกสอนในโรงเรียนไม่ต้องมีความเคารพต่อใคร ๆ และไม่ต้องเกรงกลัวผู้สอนอีกต่อไป เพราะไม้เรียวใช้ไม่ได้กับเด็ก คุณครูที่ลงโทษนักเรียนส่วนใหญ่ก็จะพบปัญหาตามมาเสมอ เพราะฉะนั้นเรากำลังอยู่ในยุคที่ ครูต้องเกรงใจนักเรียน อนาคตของชาติคงเจริญ
Advertisement
Advertisement
อยากจะฝากไว้ว่า...ความเกรงใจไม่ใช่สมบัติเฉพาะผู้ดี.....เราที่เป็นคนมีจิตสำนึกรู้ผิดรู้คิด ก็สมควรแก่การได้รับความเกรงใจ และความเห็นใจ ฉันใด.... ก็จงให้ความเกรงใจ และความเห็นอกเห็นใจแก่ผู้อื่น เช่นกัน
หวังว่าสังคมนี้คงน่าอยู่ขึ้นสักวัน......แล้วเจอกัน
Advertisement
Advertisement
ความคิดเห็น