อื่นๆ

เพราะต้องการความเงียบสงบ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เพราะต้องการความเงียบสงบ

เมื่อพูดถึงความเงียบสงบ สิ่งที่นักศึกษาสายวิทย์สุขภาพอย่างเรานึกถึง ก็คือ สถานที่ชั้นดี ที่ทำให้พวกเราได้อ่านหนังสือเตรียมสอบ  และในความเงียบสงบนั้น................ ก็มักมีอะไรบางอย่างแฝงอยู่เบื้องหลังด้วยเสมอๆ

สำหรับนักศึกษาในมหาวิทยาลัย การหาที่อ่านหนังสือนอกหอพัก เป็นเรื่องที่ใครๆ ก็ทำ นอกจากได้ติวหนังสือกันแล้ว ยังมีโอกาสเปิดตัวให้ได้พบกับผู้คนมากมาย หลากหลายคณะ ซึ่งเชื่อว่าจะได้เจอกับใครคนนั้นเข้าซักวันด้วย.......ไม่ๆ เราตั้งใจมาอ่านหนังสือต่างหาก ฉันกับเพื่อน เดินหาที่อ่านหนังสือ กระทั่ง มาพบกับเก้าอี้ม้ายาวตัวหนึ่ง ลักษณะเหมือนเก้าอี้ในโรงอาหาร ดูเก่าๆ แต่ก็ยังแข็งแรงดี วางอยู่ตรงมุมหนึ่งของทางเดินที่มีทางแยกสามแยก ใช่แล้ว เราเจอโต๊ะม้ายาวตัวนี้ที่คณะแพทยศาสตร์ รพ.แห่งหนึ่ง ใน จ.เชียงใหม่ ฉันกับเพื่อน นั่งอ่านหนังสือภายใต้ความเงียบสงบ ที่มีเสียงฝีเท้าคนเดิน สลับกันไปมา เป็นระยะ แต่นานๆ ครั้ง  ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็บรรดาคุณหมอทั้งหลายที่เดินไปขึ้นเวร ลงเวรกันตามปกติ

Advertisement

Advertisement

เวลาล่วงเลยไปจนถึงตีหนึ่งเกือบตีสอง ฉันเปลี่ยนอิริยาบถนับครั้งไม่ถ้วน เดี๋ยวนั่งหันหลังให้กำแพง เดี๋ยวย้ายมานั่งหันหน้าให้กำแพง มีผู้คนเดินผ่านไปมาด้านหลัง และช่วงจังหวะนั้น จู่ๆ ก็ได้ยินเสียง แครก....แครก....แครก... เอ๊ะ นี่ไม่ใช่เสียงฝีเท้าหนิ ฉันหันหลังมองหาที่มาของเสียงทันที มองไปยังทางแยกด้านซ้าย ทางแยกด้านขวา ทางแยกด้านหลัง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เปล่าเลย ไม่มีใครเดินผ่านมา แครก..แครก...แครก เสียงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ตอนนี้หัวใจฉันทำงานอย่างหนัก แทบทะลุออกมานอกอก ฉันมองหน้าเพื่อน สบตาเสมือนเป็นคนรู้ใจ ตัดสินใจเก็บของ เก็บขนม เก็บแก้วกาแฟ ทันใดนั้น ฟึ่บ! ไฟดับ ฉันและเพื่อนส่งเสียงกรีดร้อง ราวกับโดนใครเฆี่ยนตี ฟึ่บ! ไฟติด หน้าหนังสือที่เราเปิดไว้ พลิกเองรัวๆ ดั่งมีอภินิหาร ทั้งที่บริเวณนี้ไม่มีหน้าต่าง ไม่มีลม ขวดเครื่องดื่มชูกำลังที่วางไว้ หล่นพื้น “คริ้งงงงงงง” นาทีนั้น “กรี๊ดดดด” ฉันกับเพื่อนรวบของที่เหลือบนโต๊ะเข้าประเป๋า จับมือกันเดินกลับไปยังจุดที่เราจอดรถไว้ น้ำตาคลอเบ้าตา ด้วยความหวาดกลัว เราสองคนกึ่งเดิน กึ่งวิ่ง กลับไปที่รถเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จับมือและไม่พูดกันซักคำ ทางเดินกลับ เป็นทางเดินยาวๆ ระยะทางประมาณ 80 เมตร บอกตัวเองในใจให้มองไปข้างหน้า อย่าหันหลัง แต่สายตาที่มองไปข้างหน้ากลับมองเห็นเงาดำๆ เหมือนคนถูกล่ามโซ่เดินผ่านหน้าไป เสียงแครก...แครก...แครก ดังขึ้นอีกครั้ง เสียงมาจากข้างหลัง ไล่หลังเหมือนมีใครเดินตาม ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ  จนต้องหันไปมอง สิ่งที่เห็นคือความว่างเปล่า พร้อมเสียงกระซิบแหบๆ ที่หูข้างซ้ายว่า “มา..ทำ..อะไร...” ฉันกรีดร้องสุดเสียงพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม “ตึกๆๆๆๆๆ” เสียงฝีเท้าของฉันและเพื่อน ที่หลับตาวิ่ง ความรู้สึกหนาว เย็นยะเยือกเกิดขึ้นกับเราสองคนโดยไม่ได้นัดหมาย ระยะทางช่างไกลเหลือเกิน มือของเรายังคงจับกันอยู่..............และในที่สุดเราก็มาถึงที่จอดรถ น้ำตาเปลี่ยนเป็นหงาดเหงื่อ ผมเผ้าเปียกและรุงรัง เราสองคน start รถและขี่กลับหอคณะทันที

Advertisement

Advertisement

เช้าวันรุ่งขึ้น ทราบข่าวจากเพื่อนที่เรียนคณะแพทย์ ว่ามีรถของกรมราชฑัณฑ์ ประสบอุบัติเหตุหน้ารพ. มีผู้ต้องขังเสียชีวิต 1 ราย .......................

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์