อื่นๆ
เก่าสำหรับเราแต่ใหม่สำหรับ “พวกเขา“
ฉันเป็นแค่เด็กนักเรียนมัธยมต่างจังหวัดคนหนึ่งที่ไม่ได้มีชีวิตสมบูรณ์มากเท่าไหร่ แต่ก็ใช้ชีวิตบนความไม่สมบูรณ์นี่แหละจนมาถึงอายุ 17 ปี บางครั้งก็รู้สึกผิดหวังในชีวิต บางครั้งก็รู้สึกเฉยๆกับชีวิต แฮปปี้บ้าง เสียใจบ้างตามประสาเด็กอายุ 17ปี แต่ ฉันโชคดีที่ฉันเกิดมาเป็นเด็กร่าเริงเลยทำให้ฉันหยุดเศร้าได้บ้างเวลาใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อน ๆ แต่ลึก ๆ แล้วฉันก็ยังโหยหาชีวิตที่สมบูรณ์อยู่เหมือนเดิม
อยู่มาวันหนึ่งฉันได้มีโอกาสไปทำจิตอาสาร่วมกับเพื่อน ๆ ซึ่ง เป็นโครงการของบ้านนกขมิ้น เป็นการทำจิตอาสาโดยการนำเสื้อผ้าที่ไม่ใส่แล้ว แต่สภาพดีอยู่มาบริจาคน้อง ๆ รวมถึงตุ๊กตาที่ไม่เล่นแล้ว แล้วก็ของเล่นที่มีคนบริจาคมา รวมถึงการไปช่วยพัฒนาโรงเรียน และ มอบหนังสือปากกาดินสอให้น้อง ๆ ที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตอนนั้นที่ตัดสินใจทำจิตอาสาความรู้สึกตอนนั้นอยากทำจิตอาสาด้วย และอยากไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ ด้วย ซึ่งเป็นการเดินทางที่ยาวไกลมากผ่านภูเขาหลายลูกมาก กว่าจะไปถึงหมู่บ้านของพวกเขา ตอนนั้นเราเริ่มรับรู้ถึงความลำบากในการเดินทางของพวกเขาเลย พอไปถึงที่หมู่บ้านแห่งนั้นพวกเขาชาวดอยก็ต้อนรับเราอย่างดี โดยทำอาหารมื้อแรกให้เรากิน ความรู้สึกแรกที่เราได้สัมผัสรสชาติอาหารของเขาเรารู้ว่าเรากินไม่ได้ เพราะเราไม่เคยกินอะไรแปลก ๆ มาก่อนเราไม่รู้จักชื่อเมนูด้วยซ้ำ และไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร พวกเราก็พากันนั่งคิดกันใหญ่ว่าเมนูนี้คืออะไรกันนะ แต่โชคดีที่มีปลาทูกับไข่ทอดคือเมนูเดอะเบสที่สุดในนั้นเลยก็ว่าได้ ส่วนน้ำเปล่าที่เราดื่มก็คือน้ำที่ถูกกรองมาจากลำธาร ตอนนั้นรู้สึกธรรมชาติดีจังเราเริ่มรู้สึกชอบชีวิตที่นั่นมากขึ้นแล้วแหละ เสร็จแล้วเราก็เข้าที่พักซึ่งเป็นบ้านไม้โฮมสเตย์หลังเล็ก ๆ มีชานไม้ไว้นั่งจิบกาแฟชมวิว ที่นั่นไม่มีแม้แต่พัดลม ซึ่งก็ไม่จำเป็นสำหรับคนที่นั่นเลย เพราะที่นั่นอากาศเย็นสบายตลอดเลยก็ว่าได้ธรรมชาติล้วน ๆ ตื่นเช้ามาลุง ๆ ป้า ๆ ก็ต้มชาให้พวกเราดื่มอุ่น ๆ จากนั้นพวกเราก็ไปทำภารกิจแรกของเรา คือการไปปรับปรุงโรงเรียนอนุบาลของเด็ก ๆ ซึ่งโรงเรียนที่เราเห็นเป็นเพียงห้องหลังเล็ก ๆ มีห้องน้ำในตัว 2 ห้องสีเริ่มลอกออกมา พวกเราเลยเริ่มช่วยกันลงมือทำความสะอาดก่อน แล้วเริ่มลงมือทาสีจัดห้องเรียนให้น่าอยู่ขึ้นมาพวกเราดูมีความสุขกันมากที่ได้พัฒนาห้องเรียนให้เด็ก ๆ จนสำเร็จ
Advertisement
Advertisement
ผ่านมาวันที่ 2 เราได้นำเสื้อผ้าและตุ๊กตาของเล่น และขนมมาแจกให้กับน้อง ๆ ชาวเขาที่ขาดแคลน เด็ก ๆ ก็เริ่มมารวมตัวกันที่ศาลาของหมู่บ้าน ซึ่งเรามีการจัดกิจกรรมแจกรางวัลด้วยเด็ก ๆ สนุกกันใหญ่พวกเราก็สนุกกันไปด้วย เด็กบางคนค่อนข้างที่จะดีใจมาก ๆ ที่ได้ตุ๊กตาที่มีคนบริจาคมาให้ เด็กบางคนก็ได้เสื้อที่พอดีตัวซึ่งพ่อแม่ของพวกเขาก็ดีใจด้วยที่ลูก ๆ ได้รับของบริจาคจากพวกเรา ในวันนั้นมองไปทางไหนเราก็เห็นแต่รอยยิ้มของเด็ก ๆ ที่ได้รับของเล่นจากพวกเรา ซึ่งของเล่นพวกนี้เป็นของเล่นมือ 2 ที่ “ เก่าสำหรับพวกเราแต่ใหม่สำหรับพวกเขาจริง ๆ ” พอตกเย็นพวกเราก็เดินดูวิถีชีวิตของพวกเขา เราไปเจอบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเขากำลังตั้งวงดีดกีต้าร์ร้องเพลงเป็นภาษาถิ่นของพวกเขาพวกเราก็ไปนั่งร่วมสนุกด้วยแค่ปรบมือให้เข้าจังหวะกับพวกเขา ก็สนุกแล้ว บางบ้านก็กำลังทอผ้า ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของพวกเขานั่นแหละ บางบ้านก็มีการตากกาแฟบดกาแฟมีการปลูกกาแฟด้วย พอเริ่มเย็นก็มานั่งล้อมวงผิงไฟชวนกันสนทนา
Advertisement
Advertisement
พอถึงวันที่เราต้องกลับเรารู้สึกใจหายกันมาก เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเรารู้สึกหลงรักวิถีชีวิตที่นี่ ที่นี่ไม่มีแม้แต่อินเทอร์เน็ต ไม่มีตู้เติมเงิน ไม่มีเซเว่น ไม่มีแอร์เย็น ๆ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์สักอย่าง แต่ รู้ตัวอีกทีเราก็ตกหลุมรักความไม่สมบูรณ์ของที่นี่ไปแล้ว ชีวิตที่ว่าไม่สมบูรณ์แบบแบบฉัน พอได้มาสัมผัสที่นี่ทำให้ฉันรู้ว่า มีความไม่สมบูรณ์ยิ่งกว่าฉันมากมายอยู่ที่นี่ ซึ่งพวกเขาก็มีความสุขบนความไม่สมบูรณ์ของพวกเขาได้โดยไม่เดือดร้อนใครเลย การมาทำจิตอาสาครั้งนี้ทำให้เรามีทัศนคติใหม่ ๆ มากมาย ทำให้เราเข้าใจว่าแก่นแท้ของความสมบูรณ์ที่เราโหยหามาตลอดที่แท้จริง คือความพอใจในชีวิตตัวเองต่างหากล่ะ
บ๊ายบายกลับแล้วนะเด็ก ๆ
ความคิดเห็น