อื่นๆ

เมื่อผมปะทะ “ผีโพง” ในวันฝนพรำ

145
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เมื่อผมปะทะ “ผีโพง” ในวันฝนพรำ

เรื่องเล่าของผมเกิดขึ้นเมื่อตอนผม 10 ขวบ ผมเกิดและเติบโตที่จังหวัดน่าน ในวัยเด็กของผมเต็มไปด้วยความท้าทายและสนุกสนานจากการวิ่งเล่น ป่วนคนอื่น และเสาะแสวงหาเรื่องที่อยากรู้ หรือจะเรียกว่ายุ่งเรื่องชาวบ้านก็ว่าได้

ถ้าคุณเป็นเด็กต่างจังหวัดคุณจะรู้ว่าของเล่นที่ดีที่สุดสำหรับเด็กต่างจังหวัดอย่างเราๆ เมื่อ 20 กว่าปีก่อน หนีไม่พ้นทุ่งนา ภูเขา น้ำตก การเดินเก็บของป่า การออกล่ากบ เขียด ชีวิตเด็กต่างจังหวัดไม่มีแสงสีไม่มีเซเว่น มือถือแบบ 4G 5G เหมือนปัจจุบันไม่ต้องพูดถึง แค่มือถือ 2G โทรเข้าออกนาทีละ 3 บาทยังหาไม่ค่อยได้เลย

เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าเรื่องเล่าของผมมีอยู่ว่า วันนั้นเวลา 2 ทุ่มได้ผมกับเพื่อนปั่นจักรยานเพื่อออกล่าเขียด ผมทำกับเพื่อนแบบนี้เป็นประจำวันไหนที่เราคึกๆ อยากกินหรือบางทีแค่อยากจะออกล่าเล่น ผมออกจากบ้านทันทีที่มันปั่นจักรยานมาถึงบ้านผม เราสองคนปั่นจักรยานไปด้วยความเร็วแม้วันนี้ฝนจะพรำก็ตามเพื่อให้ถึงจุดหมายโดยเร็ว วันนี้ผมกับมันไปล่าเขียดที่อ่างเก็บน้ำ ผมจอดจักรยานไว้แล้วค่อยๆ เดินล่าเขียดไม่ไกลจากที่จอดจักรยานมากนัก ในจังหวะที่เราเริ่มล่าได้ 2-3 ตัว ผมเห็นเงาตะคุ่มพร้อมเสียงเขียด กบ คางคก ร้องกันระงม พอเดินเข้าไปไกลๆ เงาตะคุ่มนั่นก็ยังหันหลังให้กับผม ผมใช้ไฟฉายส่องกบส่องทันทีเห็นเป็นชายแก่คนหนึ่ง นั่งลงกับพื้นเหมือนคล้ายคนไม่สบาย ผมเลยถามไปว่า “ลุงมาทำอะไรตรงนี้เป็นอะไรหรือเปล่า” ลุงตอบผมแบบไม่มองหน้าผม “ไม่ได้เป็นอะไร” ผมเลยบอก “ผมกำลังจะลงลุงไปกับผมมั้ย” ลุงตอบ “ไม่ต้อง”

Advertisement

Advertisement

ผมกับเพื่อนตัดสินใจปั่นจักรยานกลับบ้านในคืนนั่นผมนอนไม่หลับได้แต่คิดว่าลุงคนนั้นเป็นใคร ทำไมมาอยู่อ่างเก็บน้ำดึกๆ เช้าวันรุ่งขึ้นผมเดินเสาะหาลุงทั่วหมู่บ้าน ไปถามร้านของชำ ร้านกาแฟ ไปตลาด ผมจำหน้าลุงได้เป็นอย่างดีแม้มันจะมืดแต่ก็พอบรรยายหน้าตาลุงได้ ไม่มีใครรู้จักลุงเลยสักคน จนผมมาเจอป้ามณแกเป็นคนที่รู้เรื่องทุกเรื่องในหมู่บ้าน ป้ามณบอกว่าลุงที่ผมตามหาอยู่หมู่บ้านข้างๆ เขาเล่ากันว่าลุงเป็น “ผีโพง” ในภาษาเหนือ

ผมคิดว่าลุงต้องใช้ผีโพงแน่เลย คืนนี้ผมต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าลุงใช้ผีโพงหรือเปล่า ผมรอเวลาจนกว่าจะค่ำด้วยใจที่จดจ่อ พอ 2 ทุ่มผมปั่นจักรยานไปพร้อมกับเขียดเพื่อพิสูจน์ให้ได้ว่าลุงเป็นผีโพงหรือเปล่า พอไปถึงอ่างเก็บน้ำมันทั้งเงียบและมืดแต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมเชื่อว่าผีโพงอยู่แถวนี้คือเขียดที่ผมเอามาด้วยร้องดังมากๆ ผมอยู่บริเวณนั้นสักพักใหญ่เดินหาจนมั่นใจว่าลุงแกไม่มาแล้วจริงๆ ผมปั่นจักรยานแบบคอตกจนถึงบ้านเพราะอดพิสูจน์ให้เห็นว่าลุงแกเป็นผีโพง พอถึงบ้านผมเทเขียดออกมาเขียดของผมตายหมด ผมไม่กล้ากินต่อ คนเหนือเชื่อว่าถ้าผีโพงกินแล้วเราเอามากินต่อเราจะเป็นทายาทอสูรของผีโพง

Advertisement

Advertisement

ผมกลับขึ้นบ้านด้วยอาการเหนื่อยจากความอยากรู้อยากเห็นอยากพิสูจน์ แต่สิ่งที่ผมต้องเจอน่ากลัวยิ่งกว่าผีโพงซะอีก แม่นั่งรอผมพร้อมไม้เรียวที่เตรียมไว้สำหรับผมคนเดียว พร้อมคำตอบที่ว่า “มึงไปไหนมาทำไมออกไปคนเดียวดึกๆ” ผมได้แต่พยายามวิ่งเป็นการวิ่งที่น่าจะเร็วกว่าหนีผีโพงซะอีกแต่ไม่ทันแม่ลงไม้ที่ตูดผมเป็นสิบที ผมได้แต่คิดว่าทำไมลุงไม่ออกมาผมจะได้บอกแม่ว่าผมท้าล่าผีโพงสำเร็จ

เรื่องเล่าของผมจบเพียงเท่านี้ผมของเสริมเกล็ดเคล็ดลับเกี่ยวกับผีโพงให้ทุกคนได้อ่าน คนเหนือเชื่อว่าผีโพงเกิดจากคนที่เล่นไสยศาสตร์แล้วไม่สามารถควบคุมวิชาในตัวเองได้ เวลากลางวันผีโพงจะใช้ชีวิตเหมือนผู้คนปกติทั่วไป แต่ตกกลางคืนจะกลายร่างเป็นผีโพงเพื่อออกหากินของสกปรก ของคาว เช่น กบ เขียด ศพ รกเด็กแรกเกิด ฯลฯ เหมือนกับผีกระสือ ผีกระหัง หรือผีปอบ ผีโพงมีจุดเด่นคือมีแสงสว่างหรือดวงไฟที่รูจมูก เวลาที่ผีโพงชอบคือวันที่ฝนตกพรำๆ และเชื่อว่าผีโพงมักจะเป็นผู้ชาย ผีโพงไม่ทำร้ายใครถ้าไม่ถูกทำร้ายก่อน มีความเชื่อว่าถ้ามีคนพบผีโพงและเปิดเผยตัวจริงของผีโพงๆ จะตาย ความเป็นผีโพงสามารถถ่ายทอดกันได้ด้วยการพ่นน้ำลายใส่หน้าหรือกินน้ำลายของผีโพงเข้าไป

Advertisement

Advertisement

ขอบคุณภาพจาก : www.mcblurz.wordpress.com

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์