อื่นๆ

โรงเรียนที่เต็มไปด้วยหลายเรื่องหลอน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
โรงเรียนที่เต็มไปด้วยหลายเรื่องหลอน

โรงเรียนหลอนที่มีเรื่องเล่ามากมายเรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นที่โรงเรียนที่ฉันเคยศึกษาอยู่เมื่อตอนมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนนี้ตั้งอยู่ที่จังหวัดน่านซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ โรงเรียนนี้เมื่อมองผ่านๆก็เป็นเหมือนโรงเรียนอื่นทั่วๆไปที่เป็นสถานที่ศึกษา แต่ว่ามันมีเรื่องราวอะไรมากกว่านั้น โรงเรียนแห่งนี้มีเรื่องราวเล่าต่อๆกันมาหลายเรื่องมากซึ่งฉันก็อยากเล่าต่อเรื่องราวที่ฉันเคยได้ฟังมานี้ให้ทุกคนได้รู้เหมือนฉัน เริ่มจากโรงเรียนนี้เดิมเคยเป็นสนามรบเก่ามีจอมปลวกใหญ่หน้าโรงเรียนที่เล่าต่อๆกันมาว่าตรงนั้นคือที่ที่เขาเอาศพนักรบที่เสียชีวิตไปกองไว้แค่เริ่มก็หลอนแล้ว ฉันขอเล่าเรื่องที่มีคนเล่าต่อๆกันมาหลายๆเรื่องเลยละกันนะคะ เริ่มจากเรื่องที่นานมาแล้วนานมากๆเดิมหอ15เป็นหอนอนที่เป็นหอนอนสำหรับนักเรียนที่เป็นนาฏศิลป์เท่านั้น มีนักเรียนนาฏศิลป์คนหนึ่งเป็นหอบเขาสั่งห้ามไม่ให้โดนพัดลมแบบจังๆเวลานอนต้องห่มผ้านอน แต่แล้ววันนึงเขาฝันว่าตัวเองวิ่งอยู่(ซึ่งมันต้องเหนื่อยแน่ๆ)ละวันนั้นเขาไม่ได้ห่มผ้าตอนนอนเขาเกิดอาการหอบและเสียชีวิตในหอนั้นเตียงที่เด็กคนนั้นเสียชีวิตไม่มีใครกล้าไปนอนอีกเลย

Advertisement

Advertisement

หลังจากนั้นมีอยู่วันหนึ่งครูหอ14บังเอิญกลับหอนอนช้ากำลังเดินขึ้นบันไดจะไปเข้าห้องนอนแต่ครูหันไปมองที่หอ15และเห็นว่ามีนางรำใส่ชุดรำ รำอยู่หน้าหอ15พอนางรำคนนั้นหันมาหน้าของเขานั้นเขียวหมด ครูตกใจมากและหลังจากนั้นมาครูก็ไม่นอนหอ14ไปนานมากและกลับไปนอนที่บ้านแทน ต่อมาเป็นเรื่องของหอ8เดิมที่ใต้ถุนหอ8มีห้องหนึ่งเคยเป็นห้องซ้อมดนตรีแต่นานมาแล้ว ปัจจุบันเป็นห้องเก็บของพวกไม้กวาด ไม้ถู ตะกร้าอาบน้ำของเด็กนักเรียนแต่กลับมีคนได้ยินเสียงเครื่องดนตรีมาจากห้องนั้นทั้งๆที่ไม่มีเครื่องดนตรีอยู่เลย ฉันขอหยิบยกมาเล่าแค่นี้แต่ว่าเรื่องราวของโรงเรียนนี้ยังมีอีกเยอะมาก แต่ถ้าหากถามฉันว่าฉันเคยเจอเรื่องราวลี้ลับไหมฉันก็ไม่แน่ใจว่าเรื่องราวที่ฉันเจอมันคืออะไร แต่ฉันก็อยากเล่าฉันกับเพื่อนสนิทเป็นเด็กนักเรียนวงดุริยางค์เลิกซ้อมดึกยิ่งถ้าเป็นช่วงมีงานหรือใกล้แข่งจะเลิกซ้อมดึกมากประมาณเที่ยงคืนเลยแหละ ละมีอยู่วันหนึ่งฉันและเพื่อนกำลังเดินจากห้องวงโยไปที่หอประชุมเพื่อซ้อมเป็นปกติเหมือนทุกวัน เราเดินไปกันแค่2คนเพราะเรามัวแต่ช้าไม่ทันเดินไปกับคนอื่น เราเดินผ่านอาคารคอม อาคารนั้นมีห้องคอมและห้องแนะแนวซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะได้ยินเสียงเครื่องคนตรีไทยแต่ฉันกับเพื่อนกลับได้ยินทีแรกฉันคิดว่าฉันหูแว่วแต่พอฉันกับเพื่อนหันมามองหน้ากันและพูดพร้อมกันว่า"ได้ยินเหมือนกูไหม"แค่นั้นแหละฉันและเพื่อนก็จับมือกันวิ่งแบบเร็วสุดๆไปหาคนอื่นๆนี่แหละคือเรื่องราวที่ฉันเจอกับตัว แต่ว่าเรื่องราวของโรงเรียนนี้มีหลายคนมากที่เจอแต่ฉันขอหยิบยกมาแค่นี้

Advertisement

Advertisement

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์