อื่นๆ

เจอดีที่ริมเขื่อน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เจอดีที่ริมเขื่อน

ภาพประกอบ

  หลายๆคนคงชอบชวนเพื่อนๆ ไปปาร์ตี้ตั้งแคมป์กันตามป่า หรือ ริมเขื่อน ชมบรรยากาศดีๆ  แต่เรื่องที่พวกผมเจอ ทำให้ผมกับเพื่อนๆ  ไม่กล้าไปตั้งแคปที่ริมเขื่อนกันอีกเลย

           เรื่องมันเริ่มขึ้นที่เพื่อนของผม อยากหาที่ตั้งแคมป์ตกปลาและนั่งดื่มชิวๆ กันตามประสาเพื่อน จึงได้ตกลงกันไปตั้งแคมป์ในอำเภอนึง ในจังหวัดนครศรีธรรมราช  เราจัดแจ้งเตรียมของและเดินทางกัน ไปถึงเขื่อน ประมาณบ่ายสามโมงเย็น เราก็ได้ตั้งเต้น และเริ่มตกปลา ตอนนั้นพระอาทิตย์เริ่มตกดิน เป็นภาพที่สวยงามมาก ผมและเพื่อนๆพากันถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก และเราก็ได้เริ่มก่อกองไฟเพื่อย่างปลาที่เราตกได้กัน ตอนนั้นมีชาวบ้านในพื้นที่เข้ามาพูดคุยกับพวกผม พวกผมก็ชวนกั่งดื่นด้วยแต่แกปฏิเสธ ก่อนแกจะจากไป แกได้พูดว่าแน่นใจนะว่าพวกเองจะตั้งแคมป์ ตรงนี้แล้ว บอกว่าระวังตัวด้วยละแต่พวกผมก็ไม่ได้เอะใจอะไร

Advertisement

Advertisement

ภาพประกอบ

           เมื่อเราตกปลาและดื่นไปได้สักพัก จำได้ว่าตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 5 ทุ่ม กว่า บรรยากาศเริ่มหนาว แต่พวกเราก็ยังสนุกกันเหมือนเดิม แล้วเพื่อนผมก็หันไปเห็นผู้ชายคนนึง เดินอยู่บนถนน ไม่ไกลจากที่เราตั้งแคมป์ เพื่อนผมจึงได้ตะโกนเรียกให้มารวมวง พวกเราแปลกใจ จึงได้ถามเพื่อนว่า มึงเรียกใครวะ เพื่อนผมจึงได้บอกว่าเรียกพี่ชายคนนั้นที่ยืนอยู่บนถนนอะ แต่พอหันไปก็ไม่เจอใคร แต่ก็ไม่เอะใจ  คราวนี้เหมือนปลาจะติดเบ็ด ผมจึงไปดึงเบ็ด แต่เหมือนจะได้ปลาตัวใหญ่ ผมพยายามหนุมรอก เพื่อพยามยื้อปลา แต่สิ่งที่ผมได้มาคือกระดูก ผมถึงกับเหวอ และเรียกเพื่อนมาดู เพื่อนบอกว่าคงจะเป็นกระดูกของคนในหมู่บ้านที่จมน้ำไปตั้งแต่เหตุการฯภัยพิบัติก่อจะเป็นเขื่อน ผมก็พยายาม ไม่คิดอะไร

ภาพประกอบ

          เวลาเที่ยงคืนกว่านั้น พวกเราก็นั่งดื่มกันอยู่เมือนเดิม แต่สักได้ยินเสียงเหมือนมีคนปาก้อนหินลงน้ำ ตอนนั้นทำให้ผมกับเพื่อนเอะใจเพราะพวกเราก็นั่งอยู่กันครบไม่มีใครปาก้อนหิน และเราก็หันไปหาต้นทางของเสียง เห็นเด็กผู้ชายคนนึงตัวเต็มไปด้วยโคลน แต่มีดวงตาแดงกล่ำ พวกผมเริ่มใจคอไม่ดี แต่ก็ต้องสะดุ้งอีกครั้ง เพราะได้ยินเสียงผู้ชายและผู้หญิง พูดขึ้นมาว่าสนุกไหม ขอกินด้วยสิ พอพวกผมหันไปหาต้นเสียง เดินขึ่นมาจากน้ำๆ ตัวเต็มไปด้วยโคลน แต่หน้าตาเน่าเฟะ ตอนนั้นพวกผมตกใจสุดขีด รีบวิ่งทิ้งของกัน ตอนนั้นเราไม่เหนื่อยกันเลยไม่รู้เพราะกลัวหรือตกใจ เราวิ่งไปประมาณกิโลครึ่ง เราเจอวัดที่อยู่ใกล้เขื่อน ตอนเราเข้าไปในวัดตอนพงกเราเสียงกังกันมาก พระที่จำอยู่ในวัดลุกขึ้นดู และถามพวกผมทั้งหมดจึงบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าผีๆที่เขื่อน หลวงพี่ก็พูดขึ้นว่าโดนอีกแล้วสินะ จากนั้นท่านก็หาหมอนกับผ้าห่มมาให้และให้นอนหน้าพระประธานที่ศาลาวัด  

Advertisement

Advertisement

ภาพประกอบ

        พอเช้า แล้วหลังจากพวกเราได้สติ หลวงพี่จึงได้เล่าว่าสิ่งที่พวกโยมเห็นเป็นดวงวิญญานที่ยังวนเวียนไม่ยอมไปผุดไปเกิด และชอบออกมาปรากฏให้ชาวบ้านเห็นบ่อย พอได้ฟังเรื่องราว พวกผมก็ได้ทำบุญกรวจน้ำอุทิศส่วนกุศลให้พวก เขา แล้วหลังจากนั้นพวกเราก็ไปเก็บของกลับบ้าน เหตุกาณครั้งนั้นทำให้เราไม่กล้าไปตั้งแค้มกันอีกเลย

รูปภาพประกอบเป็นของเจ้าของบทความเองใช้ประกอบเพื่อเพิ่มบรรยากาศเท่านั้น

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์