อื่นๆ

ผีดึงหมอน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ผีดึงหมอน

"นอนต่างถิ่นต่างที่ ถ้าไม่ไหว้ขออนุญาติเสียบ้าง คุณอาจเจอเรื่องราวสุดหลอนแบบคาดไม่ถึง"


สวัสดีครับ คราวนี้เราจะพาลงใต้กันอีกรอบ รอบนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ วัดแห่งหนึ่งของ อำเภอแห่งนึงในจังหวัดปัตตานี (ไม่ขอระบุสถานที่ชัดเจนนะครับ เพื่อความปลอดภัยของพระสงฆ์ภายในวัด) วัดนี้ยังเปิดเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม เดือนนึงจะเปิดให้เข้าปฏิบัติสองรอบๆละ 7 วัน วัดนี้แปลกกว่าวัดอื่นๆมากครับ แปลกยังไง !!!! วัดนี้ไม่มีกำแพงครับ เพื่อนๆนักอ่านคงสงสัย แปลกตรงไหนวัดไม่มีกำแพง คือวัดนี้อยู่ในพื้นที่สีแดงครับ เสี่ยงต่การถูกผู้ก่อการร้ายบุกเข้าโจมตีมาก นอกจากไม่มีกำแพงแล้ว เท่าที่ผมรู้มา ยังไม่เคยมีเจ้าหน้าที่ทหารหรือตำรวจไปตั้งฐานปฏิบัติการที่นี่เลย นอกจากมีแวะเวียนเข้าไปตรวจเป็นครั้งคราว ซ้ำวัดนี้ก็อยู่ในระแวกชุมชนอิสลามเสียด้วย แต่!!! พระและฆราวาสในวัดก็ยังอยู่สบายดีมาจนถึงทุกวันนี้

Advertisement

Advertisement

เอาละครับมาเริ่มต้นเรื่องราวสุดหลอนกันดีกว่า ด้วยผมได้เคยเข้าไปปฎิบัติธรรมที่นี่บ่อย ทำให้สนิทสนมกับอาจารย์ผู้สอนเป็นอย่างดี มีอยู่ครั้งนึง ผมไปรับลูกสาวที่ตัวเมืองปัตตานีเพื่อจะไปขึ้นรถไฟไปที่จังหวัดชุมพร ผมกับลูกสาวไปไม่ทันรถไฟเที่ยวสุดท้าย จะกลับเข้าเมืองก็ลำบากเพราะเย็นมากแล้วไม่มีรถประจำทางวิ่งแล้ว ที่นี่จะหารถประจำทางวิ่งกลางคืนยากครับ เพราะกลางคืนอันตราย ผมเลยโทรหาอาจารย์ที่อยู่ที่วัดให้ช่วยมารับที่สถานนีรถไฟเพื่อจะขอไปอาศัยนอนที่วัดสักคืน ไปถึงวัดก็มืดพอดี ผมนั่งกินข้าวกับลูกสาวและคุยกับอาจารย์ได้สักพักก็ขอตัวพาลูกสาวไปนอน ตอนแรกอาจารย์จะให้นอนที่ศาลาปฏิบัติธรรมหลังใหญ่ ผมก็เกรงใจ เพราะเดี๋ยวอาจารย์ต้องหามุ้ง หาที่นอน ผ้าห่มยุ่งยากเข้าอีก ก็เลยขออาจารย์ว่า ขอไปพักที่ห้องประจำของผมได้ไหม (ไปปฏิบัติธรรมบ่อย จนได้ห้องประจำครับ อยู่ในสวนป่าท้ายวัด) อาจารย์ก็อนุญาติ แล้วก็เดินไปส่งผมกับลูกสาวที่ห้องพักท้ายวัด ในป่าท้ายวัดนี้จะเป็นป่าต้นยาง มีห้องพักปลูกอยู่ห่างๆกัน ประมาณ 10 ห้อง ช่วงที่ผมไป ช่วงนั้นไม่ใช่ช่วงเปิดสอนปฏิบัติธรรม ทำให้มีแค่ผมกับลูกสาวเท่านั้นที่เข้ามาพัก บรรยากาศมันก็เลยดูเงียบๆวังเวงตามความมืด อ่อ ลืมบอกไปครับ ลูกสาวผมตอนนั้นอายุ 4 ขวบครับ เค้าไม่งอแง หรือรบเร้าอะไรเลย ไม่กลัวความมืดด้วย พอถึงห้องก่อนอาจารย์กลับท่านก็บอกว่า ไหว้บอกเจ้าที่เจ้าทาง ด้วยนะ แล้วท่านก็เดินกลับไปที่พักของท่าน ผมเองก็จัดเตรียมที่นอน พาลูกอาบน้ำ เอามือถือมาเปิดดูการ์ตูนกับลูกสาว จนลูกผมหลับไป ผมเองยังไม่รู้สึกง่วง ก็เลยเอาหนังสือธรรมะขึ้นมาอ่าน เริ่มดึกก็เริ่มมีอะไรแปลกๆ เหมือนมีคนเอาอะไรเขวี้ยงมายังห้องที่ผมพัก ก่อนหน้านี้ที่ผมเคยมาพัก ก็มีเสียงแบบนี้นะ เป็นเสียงของลูกยางตกใส่หลังคาบ้าง กิ่งไม้บ้าง แต่คืนนั้น มันไม่ใช่เสียงที่ดังมาจากหลังคา แต่เปลี่ยนเสียงที่ดังมาจากผนังห้อง และเสียงที่ดังก็ไม่ใช่ลูกต้นยางแน่ๆ เพราะเสียงที่กระทบกับผนังห้องเหมือนวัตถุชิ้นใหญ่ๆมากกว่า แต่ผมก็ไม่ใส่ใจอะไรมาก เคยเจอเรื่องแบบนี้มาบ่อยจนแทบจะเลิกกลัวไปแล้ว แค่มองไปที่ลูกสาวเห็นเค้าไม่ตื่นตกใจขึ้นมาผมก็เลยพลอยเลิกสนใจไปเลย ผมอ่านหนังสือจนกระทั่งตี3 เริ่มรู้สึกง่วงก็เลยหยิบหมอนมานอนลงข้างๆลูกสาว จนม่อยหลับไป

Advertisement

Advertisement

ระหว่างหลับอยู่นั้น ผมก็รู้สึกว่า หมอนที่หนุนอยู่นั้น ค่อยๆเลื่อนไปจากหัวผมออกไป ผมก็เอามือดึงกลับมาหนุนหัวตามเดิม สักพักก็เหมือนเดิมอีกหมอนที่หนุนอยู่ก็ค่อยๆเลื่อนไปจากหัวผมจนหัวผมตกจากหมอน ผมรู้สึกตัวก็ลุกขึ้นนั่งมองไปที่ลูกสาว คิดว่าลูกสาวคงจะเป็นคนที่มาดึงหมอน แต่ก็เห็นเค้านอนหลับปกติ ผมเริ่มเอะใจ แต่ด้วยความง่วง ก็เลยไม่สนใจอะไรอีกจับหมอนมาหนุนหัวนอนตามเดิม สักพักพอทำท่าจะหลับ คราวนี้หนักกว่าครับ !!! หมอนถูกกระชากออกจากหัวผมไปสุดแรง กระเด็นไปอยู่ที่มุมห้อง ผมตกใจลุกขึ้นนั่งมองไปที่หมอนและมองไปที่ลูกสาว ก็เห็นลูกสาวนอนหลับสนิทเหมือนเดิม คราวนี้แหล่ะครับ เจ้าที่เจ้าทางเริ่มบรรเลงอิทธิฤทธิ์กันเต็มที่ ทั้งเสียงหัวเราะบ้าง เสียงก้อนหินถูกปามากระทบผนังห้องบ้าง บางทีก็มีเสียงย่ำเดินอยู่รอบๆห้อง ผมเริ่มจะขวัญเสียขึ้นมาบ้างแล้ว ที่บอกไม่กลัวเจอมาบ่อย ที่บ่อยคือเค้ามาแบบปกติ ไม่ใช่ที่ออกฤทธิ์ออกเดชกันแบบนี้ หันไปมองลูกสาวก็ยังหลับสนิทอยู่เหมือนเดิม ตอนนั้นผมเองคิดตัดสินใจจะอุ้มลูกสาววิ่งไปหาอาจารย์ที่ศาลาใหญ่ แต่ก็กลัวลูกสาวจะตกใจ ทางก็มืดและไกลด้วย ถ้าล้มขึ้นมาก็อันตรายกับลูกสาวอีก ระหว่างนั้นเสียงอาจารย์ผมก็แว้บบบขึ้นมาในหัว "ไหว้บอกเจ้าที่เจ้าทางด้วยนะ" ผมก็เริ่มนั่งคุกเข่าและสวดมนต์สรรเสริญพระรัตนตรัยก่อนเลย สวดเสร็จก็พูดออกเสียงไปเบาๆว่า "ลูกช้างกราบขอขมาเจ้าที่เจ้าทาง พระภูมิเจ้าที่ทุกท่าน ลูกช้างมาขออาศัยหลับนอนกับลูกสาวเพียงคืนเดียวเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาร้ายใดๆ สิ่งใดที่ลูกล่วงเกินท่านไปจะด้วยเจตนาก็ดีไม่เจตนาก็ดี ขอท่านทั้งหลายอดโทษให้ลูกช้างด้วยเถิ้ดด" สักพักเหมือนทุกอย่างจะสงบลงอย่างฉับพลัน ผมก็ค่อยๆคลานไปหยิบหมอนและคลานกลับมานอนข้างๆลูกสาวเหมือนเดิม ก่อนจะหลับก็ชะโงกมองดูหน้าสาว หลับปุ๊ยเหมือนเดิม เช้ามาเมื่อลูกสาวตื่นขึ้น ผมก็แกล้งถามลูกสาวว่า เมื่อคืนหลับสบายไหม "หลับสบายค่ะ หลับถึงเช้าเลย ^_^" พ่อหลับสบายไหมคะ "จร้าาา พ่อหลับสบายถึงเช้าเหมือนกันเร้ยยย *_*

Advertisement

Advertisement


ขอบคุณรูปภาพจาก : pixabay.com

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์