อื่นๆ
โบราณว่าไว้...อย่านอนขวางทางเดิน

ภาพโดย SuperHerftigGeneral จาก Pixabay
เมื่อตอนเป็นเด็กเรามักได้ยินผู้ใหญ่คอยเตือนอยู่เสมอๆ ว่า อย่าเล่นซ่อนแอบเวลากลางคืนเดี๋ยวผีบังตา อย่าลงเล่นน้ำคนเดียวเดี๋ยวผีพลายจะมาเอาตัวไป อย่านอนขวางทางเดินเดี๋ยวเจ้าที่เดินไม่ได้ อย่าเล่นมีดและของมีคมเดี๋ยวผีผลัก อย่าเล่นไฟเดี๋ยวไฟจะไหม้บ้าน และอีกสารพัดที่ห้ามไม่ให้เราทำ
แต่เมื่อเราถามถึงเหตุผล ว่าเหตุการณ์ที่ว่ามีใครเคยเจอเหรอ เรากลับไม่เคยได้คำตอบกลับมา ตอนนั้นก็คิดนะว่าก็แค่ห้าม หรือพูดให้เรากลัวจะได้ไม่กล้าทำ หลายครั้งที่พยายามถามหาคำตอบกับยายบ้างกับแม่บ้าง ทั้งสองท่านกลับวางเฉยเหมือนไม่ได้ยิน หรือไม่อยากตอบ ใจก็คิดนะว่าเมื่อไม่สามารถตอบคำถามเราได้แล้วทำไมต้องห้าม ความที่เป็นเด็ก เมื่อเจอคำสั่งแบบนี้มักไม่ค่อยเชื่อฟังกันหรอก ไม่ทำตาม แต่ก็ไม่เถียง
Advertisement
Advertisement
ภาพโดย Free-Photos จาก Pixabay
แม่ดิฉันมีน้องสาวคนสุดท้องเป็นผู้หญิง เราสองคนเป็นน้าหลานวัยเดียวกัน อายุ 17 ปีเท่ากัน จึงเหมือนเป็นเพื่อนกัน เรามักไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ ดิฉันอยู่กับแม่ ส่วนน้าสาวอยู่กับยาย บางครั้งน้าสาวก็จะมานอนค้างที่บ้านดิฉัน เวลาเธอมาค้างที่บ้านเราก็จะนอนด้วยกัน
ห้องนอนดิฉันไม่ใหญ่มาก แต่เตียงนอนดิฉันใหญ่พอสมควร ( 6 ฟุต) ความกว้างของห้องก็ประมาณ 4x4 เมตร เมื่อวางเตียง 6 ฟุตในห้องก็จะเหลือทางเดินนิดหน่อย ซึ่งทางเดินในห้องดิฉันก็จะตรงกับประตูห้องพอดี
เมื่อไหร่ที่น้าสาวดิฉันมานอนด้วยเธอก็จะนอนกับดิฉันบนเตียงทุกครั้ง แต่มีอยู่คืนหนึ่งเธอไม่ยอมขึ้นมานอนบนเตียงด้วยกัน โดยให้เหตุผลว่าร้อน ซึ่งคืนนั้นอากาศก็อบอ้าวพอสมควร เธอว่านอนบนพื้นเย็นกว่า จึงเอาผ้าห่มลงไปปูนอนบนพื้น ดิฉันก็ไม่ได้คัดค้านอะไร
Advertisement
Advertisement
รุ่งเช้าของอีกวันดิฉันตื่นมาก็ไม่ได้เจอเธอแล้ว ถามแม่ว่าน้ากลับบ้านแล้วเหรอ แม่ว่ากลับไปแต่เช้ามืดแล้ว ดิฉันแปลกใจมากทำไมเธอรีบกลับ ทั้งๆที่วันนั้นเป็นวันอาทิตย์พวกเราไม่ต้องไปโรงเรียน และปกติเธอจะอยู่กับดิฉันทั้งวัน ตอนเย็นถึงจะกลับไปบ้านเธอ
หลังจากวันนั้นเราก็ไม่ได้เจอกันเลย ปกติวันเสาร์ตอนเย็นเธอมักมาที่บ้านดิฉันและค้างด้วยกัน วันเสาร์นั้นเธอไม่มา รุ่งขึ้นเป็นวันอาทิตย์ดิฉันจึงไปหาเธอที่บ้านยาย ถามถึงเหตุผลว่าทำไมไม่ไปหาดิฉันที่บ้านเลย เธอให้คำตอบว่าเธอจะไม่ไปค้างที่บ้านของดิฉันอีกแล้ว และเล่าเหตุการณ์ในคืนนั้นให้ฟัง
เธอเล่าว่าคืนนั้นเธอนอนกำลังเคลิ้มหลับอยู่บนพื้น จู่ๆก็มีใครไม่ทราบเอาเท้ามาเตะที่ข้างลำตัวเธอเบาๆ แล้วพูดว่า “ลุกๆ..กูจะเดิน” เธองัวเงียตื่นขึ้นแต่ก็ยังไม่ลืมตา พลันก็โดนเตะเข้าที่ข้างลำตัวอีก พลางพูดซ้ำประโยคเดิมว่า “ลุกๆ..กูจะเดิน” คราวนี้ตื่นเต็มตาเลย พลางลืมตาขึ้นมอง
Advertisement
Advertisement
ภาพโดย Pete Linforth จาก Pixabay
สิ่งที่เห็นคือผู้ชายร่างสูงใหญ่ตัวดำเมี่ยมยืนอยู่ข้างตัวเธอ แล้วค่อยๆก้มตัวลงมาจ้องหน้าเธอ เธอเล่าว่าเธอตกใจสุดขีด คว้าหมอนได้ก็กระโดดขึ้นไปนอนบนเตียงกับดิฉัน เอาผ้าคลุมโปงนอนตัวสั่นงันงก พยายามเรียกให้ดิฉันตื่นแต่ดิฉันหลับสนิท นอนกลัวอยู่จนเช้าก็รีบออกจากบ้านดิฉันไป ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเธอไม่เคยมานอนค้างบ้านดิฉันอีกเลย หากจะมีความจำเป็นต้องมา เธอจะมาเฉพาะเวลากลางวันเท่านั้น
ภาพโดย Sasin Tipchai จาก Pixabay
จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ดิฉันทราบว่า ที่ผู้ใหญ่บอกกล่าวเรา และพยายามเตือนเราอยู่เสมอๆนั้นสมควรที่เราจะเชื่อฟังเป็นอย่างยิ่ง เราไม่ควรดื้อเลย เพราะถ้าหากเราดื้อก็อาจจะเจอเหตุการณ์เช่นที่น้าสาวดิฉันเจอมาแล้วนั่นเอง
เวลาผู้ใหญ่ท่านสอนอะไรเรา ถึงจะไม่ค่อยมีเหตุผลในสายตาเราสักเท่าไหร่ เชื่อฟังไว้ก็ไม่เสียหายอะไร และท่องเอาไว้เสมอว่า "เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด" จะได้ไม่ต้องเจอเหตุการณ์ระทึกขวัญเหมือนที่น้าสาวของดิฉันได้เจอ
ความคิดเห็น
