สาวปริศนาในบ้านตึก 3 ชั้น

ดิฉันมีร้านอาหารอยู่แถวมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง กิจการดำเนินไปด้วยดี จึงคิดจะเปิดอีกสาขา จึงมองหาสถานที่แห่งใหม่เปิดร้านสาขาที่ 2  มีคนแนะนำตึกสามชั้นหลังนึง  ตึกหลังนี้เคยมีคนเช่าทำเป็นโกดังเก็บสินค้า นั่นหมายความว่าไม่มีใครอยู่อาศัยหรือทำกิจการต่างๆมาเป็นเวลานานพอสมควร ลักษณะของตึกเป็นตึก 3 ชั้นเหมาะกับการทำเป็นร้านอาหารเล็กๆ  เมื่อตัดสินใจเช่า ดิฉันก็เข้ามาตกแต่งร้าน การตกแต่งร้านก็ทำกันเองภายในครอบครัว

ช่วงที่เข้ามาอยู่ใหม่ๆ ก็มีเหตุการณ์ประหลาดหลายอย่าง แต่ก็มักจะปล่อยผ่านไป เพราะปกติก็ไม่ค่อยกลัวอะไรอยู่แล้ว แต่มีอยู่วันนึงเป็นเวลาประมาณสองทุ่ม ซึ่งร้านยังไม่พร้อมเปิด ดิฉันนั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน ส่วนหมาน้อย 2 ตัวก็นอนเล่นอยู่บนโต๊ะ ดิฉันเดินไปเข้าห้องน้ำโดยปล่อยหมาไว้ที่โต๊ะ ทำธุระยังไม่ทันเสร็จ ก็ได้ยินเสียงหมาเห่าพร้อมกัน จึงรีบออกมา พอเดินออกมาก็เจอเจ้าสองตัวนั้นลงมาจากบนโต๊ะและพร้อมใจกันมายืนเห่าอยู่หน้าบันได แหงนหน้ามองขึ้นไปข้างบน ดิฉันคิดได้อย่างเดียวคือมีผู้บุกรุกแน่นอน คิดปุ๊บก็คว้ามีดเดินขึ้นไปและสำรวจทุกซอกทุกมุม ไม่พบอะไรเลยจึงเดินกลับลงมาชั้นล่าง มึนงงและสับสนอยู่คนเดียว คิดว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้

หลังจากวันนั้นไม่นานก็เกิดเหตุการณ์แปลกๆหลายอย่าง เช่น สุนัขที่บ้านชอบนั่งจ้องไปที่มุมๆนึงไม่ขยับไปไหน และทำเสียงเหมือนขู่ปนกลัว หรือพอเวลาดิฉันนอนยังไม่ทันจะหลับก็มีความรู้สึกเหมือนอะไรซักอย่างกดทับ ลืมตาไม่ขึ้น ขยับตัวไม่ได้ ต้องตั้งสติสวดมนต์บทอิติปิโสจนกว่าจะถอนตัวจากอาการนั้นได้ หนักเข้าบางวันก็ชาที่ขาซ้ายบ้าง ขาขวาบ้างแต่ถ้าสวดมนต์อาการนั้นมันก็จะหายไป เป็นอย่างนี้อยู่เรื่อยๆ วันนึงลูกชายดิฉันเล่าความฝันของเขาให้ฟัง ปกติเขาไม่เคยฝัน ความฝันมีอยู่ว่าผู้หญิงคนนึงผมยาว ตัวผอม มาบอกเขาว่าเธออยู่ที่นี่มานานมากแล้ว หิวมากเพราะตั้งแต่ดิฉันมาอยู่ที่นี่ไม่เคยให้อะไรเธอกินเลย และคนที่เคยอยู่ที่นี่ก็ไม่เคยให้เธอกินอะไรเลยเช่นกัน พูดแล้วก็วิ่งหนีออกไป ฟังแล้วก็อึ้งสิคะเพราะจะไม่เชื่อก็ไม่ได้ หรือจะเชื่อเลยก็ไม่ดี แต่ถึงจะเชื่อดิฉันก็ไม่คิดจะทำอะไรอยู่แล้วนอกจากการสวดมนต์ ทำบุญทำทานเท่านั้น

ดิฉันเชื่อเสมอว่าเราอยู่ในโลกคู่ขนาน เราใช้ชีวิตประจำวันอยู่ในโลกของเรา อีกโลกนึงเขาก็ใช้ชีวิตอยู่ในโลกของเขาเช่นกัน  ส่วนตัวดิฉันเชื่อสนิทใจว่าวิญญาณและโลกหลังความตายมีอยู่จริง หากเมื่อวันใดเราบังเอิญไปสัมผัสกับเขาเหล่านั้นได้เราแค่ต้องมีสติ และสิ่งที่จะช่วยเราได้ดีที่สุดคืออำนาจพุทธคุณค่ะ ถ้าเรามีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจคือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เชื่อเถอะค่ะว่าไม่มีอะไรมาทำร้ายคุณแน่นอน ขอให้พระพุทธคุณคุ้มครองนะคะ