อื่นๆ

เคยเห็นผีจากประตูกันไหมครับ

230
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เคยเห็นผีจากประตูกันไหมครับ

เหตุการณ์ในวันนั้นทำให้ผมกลัวที่จะเปิดประตูตอนดึก

ย้อนไปประมานตอนสี่ขวบถึงนานมากแค่ไหนก็ไม่อาจจะลืมได้มันเป็นเหตุการณที่น่ากลัวมาก ในวัยเด็กเป็นวัยที่ผมเจอ ในตอนดึกคืนนั้น ผมปวดฉี่กลางคืนเป็นความรู้สึกปวดฉี่ ทำให้ผมนอนไม่หลับเวลาประมานตีสาม ผมได้ลืมตาขึ้นและเดินไปปลุกพี่ผมให้พาผมไปฉี่หน่อย ผมกลัวแต่พี่ก็ไม่ตื่น ไม่รู้สาเหตุเหมือนกัน สงสัยจะหลับลึก ระหว่างนั้นมีเสียงเคาะประตูก๊อก ก๊อก ก๊อก เคาะแบบไม่แรงมากตัวผมในวัยเด็กเหมือนเป็นเด็กที่มีเซ้นในเรื่องแบบนี้มาก ผมคิดในใจว่าไม่ใช่พ่อและแม่แน่ๆที่มาเคาะประตู แต่ผมดวงซวยตรงที่ผมไม่ได้ล็อคประตูนี่สิ พอสิ้นเสียงเคาะประตูประตูก็เปิดออกนิดนึง ผมสงสัยเลยแอบดูผ่านร่องเล็กๆ ระหว่างประตูและผมก็บางอย่าง !!! บางอย่างที่ไม่น่ามีจริงในโลกนี้ !!! เป็นเงาดำๆนิ้วมือแดงๆเล็บคมและแหลมมากแขนยาวสุดๆตัวผอมผมหยิก และที่สำคัญคือ ผีตนนั้นไม่มีใบหน้ามันยื่นมือเข้าทีละนิด ผมยืนแข็งไม่กล้าขยับตัวไปไหนเลยมันยื่นมือสีแดงมาบีบคอผม ผมจะเรียกพี่ผมก็ไม่ได้ เพราะมันบีบคอผมอย่างแรงมาก ผมเช้ามาผมสลบอยู่ตรงประตูไม่มีสติ จนแม่พาไปส่งโรงพยาบาล หมอได้วินิฉัยว่าผมโดนอะไรบางอย่างบีบคอ ผมกลัวมากกลัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะรู้แล้วว่ามันจะมาในคืนต่อไปอีก ผมเลยไปหาคาถาอาคมจากพระอาจารย์ที่วัดชื่อดัง ไปขอคาถาและกฤชลงอาคมที่พระอาจารย์ให้มา ผมพยายามท่องคาถาทั้งวันจนจำได้ขึ้นใจ พอตกกลางคืนเวลาเดิมได้ยินเสียงเหมือนเดิม เสียงเคาะประตูแต่ผมล็อคประตูไว้ คราวนี้ผมใจกล้าขึ้นมาแล้วผมเปิดประตูไปเจอกับมันตัวต่อตัวเลย ในใจผมคิดว่าในเมื่อมันทำให้เรานอนไม่หลับ เราก็จะทำให้มันไปเกิดให้ได้ ครั้งนี้ไม่ใช่ผีตนเดิม รูปร่างมันเปลี่ยนไป คือมีแขนที่เป็นกล้ามมัดๆ มีตาสีเขียวพร้อมถือหอกสามง่าม มันน่ากลัวกว่าตัวก่อนผมวิ่งไปหยิบมีดที่อยู่หัวนอนในมือผมกำมีดแน่นพร้อม ท่องคาถาพยายามท่องเท่าไหร่ก็ท่องไม่ได้ เพราะผมไม่มีสติผมพยายามตั้งสติอยู่นานจนมันเดินเข้ามาช้าๆในห้องผม..

Advertisement

Advertisement

ผมวิ่งไปปลุกพี่ผมให้ลุกมาช่วยผม ผมดีใจที่พี่ผมตื่นขึ้นมาพอดี เห้ยรอบนี้ตื่นเว้ย แต่พี่ไม่เห็นตัวมัน ผมใช้กฤชปาไปที่มันมันยืนแข็งอยู่ชั่วครู่ พร้อมกับปัดกฤชหลุดออกจากแขนของมัน เห้ยนี่มันผีอะไรเนี้ยผีตนนั้น วิ่งมาต่อยผมด้วยความรวดเร็ว ผมกลิ้งหลบทัน พร้อมตะโกนให้พี่ผมไปเอาน้ำมนต์ พี่วิ่งไปเอาน้ำมนต์โยนมาอย่างรวดเร็ว ผมได้น้ำมนต์แล้วรีบอมแล้วพ่นใส่หน้าผีตนนั้น มันแสบร้อนอยู่ชั่วครู่ ผมวิ่งไปหยิบกฤชที่ปาไปเมื่อกี้วิ่งและกระโดดมาปักหัวมันอย่างรุนแรง พร้อมกรีดลงมาเป็นทางยาวผีตนนั้น เจ็บมากมันเปิดประตูมิติอันพิศวงของมัน ตอนมันเปิดประตูมิติ ผมได้ยินเสียงหวยหวนจากด้านใน มันน่ากลัวมากสำหรับเด็กอย่างผม ผมนั่งถือกริซพร้อมนั่งพนมมือจนถึงเช้า..

ตอนเช้าวันนั้น ผมพยายามคิดแผนที่จะเอาชนะผีตนนั้นให้ได้ มันทำให้เด็กน้อยอย่างผมไม่ได้หลับได้นอนมาหลายวัน แล้วผมเลยเตรียมตะกรุดดาบอาคมข้าวสารเสก แม่ผมสนับสนุนอุปกรณ์ทุกอย่างพร้อม เพราะแม่รู้ว่าผมเป็นเด็กที่มีเซ้น ผมได้ไปถามหลวงตาว่า พวกนี้คืออะไรหลวงตาบอกที่เจออะคือปีศาจ พวกโอปปาติกะคือพวกที่ไม่ยอมตาย พวกมันมีเวทย์มนต์ที่ทำให้พวกมันเป็นอะไรก็ได้ มันสามารถแปลงกลายได้หลายแบบวิธีจัดการพวกมัน คือต้องเอาเหล็กไหลที่มีอาคมสูงสุดมาวางไว้ในรัศมีที่มันอยู่ คืนนั้นผมได้เตรียมเหล็กไหลที่หลวงตาให้มา พร้อมกับของทุกอย่างพร้อมออกไปรอหน้าห้อง ครั้งนี้มันไม่ได้มาตัวเดียวมาพาพวกสัตว์ที่อยู่ในนรกมาด้วยมันเป็นปีศาจสุนัข ผมปาข้าวสารเสกใส่จนมันหายไปจนหมด เหลือแต่ผีตนเมื่อวานมันวิ่งเข้ามาหาผมแบบวิธีเดิมพร้อมจะต่อยผม ผมเลยกลิ้งทะลุหว่างขามันแล้วไปแทงมันจากด้านหลังอย่างรุนแรง มันร้องโหยหวนดังมากและที่หัวมันมันฉายๆภาพบางอย่างให้ผมเห็น ซึ่งเป็นภาพสุนัขที่เพิ่งตายไปนี่เอง มันบอกว่ามันมาเกิดเป็นอสูรกายช่วยปลดปล่อยมันด้วย ก่อนจากไปมันบอกให้ผมทำดีไว้บ้างละ ไม่งั้นจะเป็นเหมือนข้านะผมอึ้งอยู่พักนึงทั้งเศร้าและกลัวในเวลาเดียวกันเพราะสุนัขผมที่ตายไป ต้องมาเกิดเป็นอสูรกายรูปร่างอัปลักษณ์แบบนี้

Advertisement

Advertisement

..

เครดิคภาพ คุณ วิศรุติ  ทามสอน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์