อื่นๆ

เจอดีกับผีที่โรงพยาล

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เจอดีกับผีที่โรงพยาล

..ภาพโดย Parentinggubstream จากhttps://pixabay.com/th/photos/840135/

เรื่องราวนี้เป็นประสบการณ์ของคุณแอนครับ คุณแอนเคยเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคอีสาน คุณแอนจะได้เล่าให้ฟังว่าวันนั้นได้ไปตรวจร่างกายประจำปีกับสามีของเธอ และใช้เวลาอยู่ในโรงพยาบาลเกือบครึ่งวันกว่าจะตรวจร่างกายเสร็จ ผลตรวจร่างกายของฝ่ายสามีเป็นปกติดีทุกอย่างยกเว้นแต่ตัวคุณแอนเอง ที่ตรวจพบก้อนเนื้อในบริเวณช่องท้องคุณแอนรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก  จึงได้ปรึกษากับสามีของเธอก่อนที่เธอจะตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดกับทางโรงพยาบาล ในอีก 2 วันถัดมา เธอรู้สึกเป็นกังวลกับการผ่าตัดในครั้งนี้มาก  จนถึงขั้นร้องไห้กับสามี คุณแอนขอให้สามีอยู่เฝ้าและจองห้องผู้ป่วยส่วนตัวให้เธอ เพราะไม่อยากอยู่ห้องรวม สามีของเธอก็รับปาก หลังการผ่าตัดที่ใช้เวลานานเกือบ 2 ชั่วโมง  เพราะก้อนเนื้อในช่องท้องของคุณแอนนั้นใหญ่และหนามาก คุณแอนบอกกับเราว่ารู้สึกตัวอีกทีก็ประมาณ 15:00 นเกือบ 16:00 น เธอรู้สึกเจ็บที่แผลเป็นช่วงๆ แต่ที่น่าแปลกใจคือเธอได้มาอยู่ในห้องผู้ป่วยรวม ทีแรกคุณแอนก็โวยวายกับทางโรงพยาบาล เพราะเธอต้องการอยู่ห้องส่วนตัวเนื่องจากเธอเพิ่งผ่าตัดและกลัวว่าแผลจะติดเชื้อเอาง่ายๆ แต่ด้วยเหตุจำเป็นทางโรงพยาบาลจึงต้องให้เธอนอนที่ห้องผู้ป่วยรวมไปก่อน   

Advertisement

Advertisement

ในคืนนั้น เนื่องด้วยโรงพยาบาลแห่งนั้นไม่ได้ใหญ่โตอะไรมาก จึงสำรองให้เธอไม่เพียงพอ คุณแอนบอกกับเราว่าเธอต้องจำใจอยู่ เพราะโดยส่วนตัวเธอเองก็ไม่ชอบโรงพยาบาลอยู่แล้ว พูดง่ายๆว่าเธอกลัวผีนั่นแหละครับ เมื่อจัดแจงทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วสามีของคุณแอนจึงขอตัวไปคุยธุระด่วนกับลูกค้า  และบอกว่าจะกลับมานอนเฝ้าในช่วงหัวค่ำอีกครั้งเรา 20:00 นคุณแอนเธอก็ไม่ได้ว่าอะไรส่วนแผลที่เธอผ่าตรงหน้าท้องนั้นยาวมากๆ  ขยับตัวทีก็รู้สึกเหมือนไส้จะขาดออกจากกันเธอจึงได้แต่นอนนิ่งๆอยู่อย่างนั้นโชคดีที่ห้องผู้ป่วยที่เธออยู่นั้น มีคุณป้าที่นอนรักษาตัวอยู่ฝั่งตรงข้าม โดยมีสามีของป้าแก่คอยเฝ้าอยู่ คุณแอนได้ทำความรู้จักกับลุงจนรู้ว่าแกชื่อลุงมั่นส่วนภรรยาของลุงแกเป็นโรคเบาหวานและมีความดันขึ้นสูง     หมอเลยให้อยู่นอนดูอาการที่โรงพยาบาลและในช่วงเวลาประมาณทุ่มเศษๆสามีของคุณแอนก็กลับมาเขาจัดแจงเอาเก้าอี้มา เอามาวางข้างๆเตียงของเธอ ตลอดทั้งคืนนั้นเธอรู้สึกกระสับกระส่ายนอนไม่ค่อยจะหลับจนกระทั่งเธอมองไปที่เตียงข้างๆ เห็นเด็กผู้หญิงร่างเล็กคนหนึ่งกำลังจ้องมาที่เธอเช่นกัน ..

Advertisement

Advertisement

   ภาพโดยFoundry จากhttps://pixabay.com/th/photos/867226/

คุณแอนบอกว่าตอนนั้นเธอตกใจมากเพราะตั้งแต่เข้ามานั้นก็ยังไม่เห็นคนอื่นๆเลยนอกจากสองสามีภรรยาที่อยู่เตียงฝั่งตรงข้าม คุณแอนบอกว่าตอนนั้นรู้สึกเป็นกังวลเรื่องแผลมาก สามีของเธอก็หลับไปแล้วจึงคิดจะหาเพื่อนคุยคุณแอนพูดคุยทักทายกับเด็กคนนั้น ไปได้สักครู่ก็ได้รู้ว่าชื่อน้องออย เธอเป็นเด็กช่างพูดช่างเจรจา ชวนคุณแอนคุยไม่หยุดทั้งเรื่องที่เธอขาพลิกเพราะกระโดดลงจากรถกระบะของพ่อจนต้องมารักษาตัวอยู่ที่นี่ แถมเธอยังแอบบ่นหน่อยๆ ว่าหิวข้าวและอยากจะกลับบ้าน คุณแอนจึงถามเธอเกี่ยวกับพ่อและแม่จนได้ความว่า

สามวันมานี้ไม่มีใครจากทางบ้านมาเยี่ยมเธอเลย  น้องออยตัดพ้อกับคุณแอนว่าพวกเขาคงลืมเธอไปแล้ว ในขณะที่พูดอยู่นั้นแววตาเธอเหนื่อยล้าและเศร้ามากๆ จนเห็นได้ชัด คุณแอนจึงพูดปลอบใจเด็กคนนั้นไปเพราะความสงสาร ระหว่างที่พูดคุยกันอยู่นั้น ของเธอก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากทางประตูห้องเป็นเสียงรองเท้าส้นสูง เดินกุกกักที่ด้านนอกคุณแอนพยายามมองตามเสียงนั้นไปจนเสียงนั้นมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูแล้วก็ได้ยินเสียงเปิดประตูช้าๆดังขึ้น คุณแอนจึงรู้สึกขนลุกขึ้นมา แสงไฟนีออนจากด้านนอกค่อยๆสาดส่องเข้ามาในห้องตามองศาของประตูที่เปิดออก หลังจากนั้นเธอก็เห็นนางพยาบาลคนหนึ่ง    นางพยาบาลคนนี้สูงได้สัดส่วนผิวขาวและผมดำสนิทในมือถือแฟ้มประวัติคนไข้ กำลังเดินเข้ามาในห้องแววตาของเธอเรียบนิ่ง และเดินตรงมาที่เตียงของน้องออย ก็บอกให้น้องออยรีบนอนเพราะร่างกายต้องการพักผ่อน  ถึงน้องออยจะดูเป็นเด็กซุกซนแต่เธอก็ปฏิบัติตามที่คุณพยาบาลบอกอย่างว่าง่าย แล้วคุณพยาบาลคนนั้นก็หันกลับมามองที่คุณแอนและส่งยิ้มมาให้        ..

Advertisement

Advertisement

  ภาพโดยParentinggubstream จากhttps://pixabay.com/th/photos/840127/

ในคืนแรกนั้นก็ดูจะไม่มีอะไร แต่มีเรื่องที่ทำให้คุณแอนแต่มีเรื่องที่ทำให้คุณแอนแปลกใจอยู่บ้าง คือตอนที่เธอตื่นขึ้นมาแล้วไม่พบกับน้องออย พี่นอนอยู่เตียงข้างๆเมื่อคืนนี้คุณแอนจึงถามสามีที่ตื่นก่อนเธอเกี่ยวกับเด็กคนนั้น สามีของเธอก็บอกว่าไม่เห็นตรงนั้นมีแค่เตียงเปล่า คุณแอนรู้สึกประหลาดใจมากเธอคิดไปต่างๆ นานาเกี่ยวกับเด็กคนที่คุยกับเธอเมื่อคืนพอช่วงสายของวันสามีของคุณแอนต้องออกไปทำงาน แต่คุณแอนเองก็รู้สึกอุ่นใจ เพราะยังมีสองตายายเตียงฝั่งตรงข้ามอยู่เป็นเพื่อน ไม่นานนักหลังจากที่สามีของเธอออกไปทำงานคุณพยาบาลคนเดิมก็เดินกลับเข้ามาในห้องพร้อม ทั้งรถเข็นที่มีน้องออยนั่งมาด้วย ตอนนั้นคุณแอนบอกว่าตัวเองรู้สึกโล่งใจมาก ที่เห็นน้องออยกลับมาเพราะไม่งั้นเธอต้องคิดว่าน้องออยเป็นผีมาหลอกเธอแน่ๆ คุณพยาบาลยกร่างน้องออยขึ้นบนเตียงพร้อมทั้งจัดผ้าให้เรียบร้อย

คุณแอนเล่าต่อไปว่าเคยเห็นน้องออยพูดหยอกล้อเล่นกับพยาบาลคนนั้น ซึ่งก็ดูมีความสุขดี เขาอยู่ด้วยกันสักพักก่อนที่คุณพยาบาลจะขอตัวกลับไปทำงาน คุณเเอนก็สบโอกาสถามชื่อคุณพยาบาลคนนั้นกับน้องออยไป จนได้รู้ว่าเธอชื่อมะลิ จากนั้นน้องออยก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับคุณพยาบาลคนนั้นให้ฟัง เธอบอกว่าตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ก็มีแต่พี่มะลินี่แหละ  ที่คอยมาดูแลหนูพี่เขาเป็นคนที่คุยด้วยแล้วสนุกมากค่ะ ถึงหนูจะอยู่ที่นี่หลายวันแล้วก็เถอะแต่พี่เขาไม่เคยเบื่อหนูเลย   พี่เขามาเล่นกับหนูทุกวัน คุณแอนเองก็ได้แต่ฟังเธอเล่าแต่ก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจอะไร  จนกระทั่งเย็นวันนั้นสามีของเธอโทรมาบอกว่าวันนี้คงเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนไม่ได้เพราะคุณแม่ป่วยน่ะต้องพาไปโรงพยาบาลคุณแอนเธอก็เห็นใจสามีเลยไม่ได้ห้ามอะไรถ้าอยู่กับน้องออยและป้าอีกคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแต่สามีของป้าไม่อยู่แกคงจะออกไปซื้อของข้างนอก..

    ภาพโดย corgaasbeek จาก https://pixabay.com/th/photos/928653/

น้องออยที่นอนอยู่เตียงข้างๆก็ได้ชวนเธอคุยอีกครั้ง เธอก็คุยด้วยตามปกติ เธอบอกว่าตอนนั้นจำได้แค่เพียงว่าน้องออยบ่นอีกครั้งว่าหิวข้าวไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้ว คุณแอนเองก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะคิดว่าน้องออยคงไม่ชอบรสชาติอาหารของโรงพยาบาล ขณะที่คุณแอนและน้องออยนอนคุยกัน ไปเรื่อยๆข้างนอกฝนก็เริ่มตกทำให้บรรยากาศเย็นสบายน่านอนมากๆจนคุณมะลิเปิดประตูห้องเข้ามาทำให้บรรยากาศภายในห้องนั้นเปลี่ยนไป มะลิไม่ได้พูดคุยหรือเข้ามาตรวจใครเป็นพิเศษ เธอเดินตรงมาที่เตียงของน้องออยและก้มลงกระซิบบางอย่าง น้องออยเองก็พยักหน้าแล้วยิ้มออกมาเหมือนดีใจ หลังจากนั้นมันก็เดินออกจากห้องไป คุณแอนจึงถามน้องออยไปเล่นๆว่า พ่อกับแม่มารับแล้วหรอจะได้กลับบ้านแล้วใช่ไหม น้องออยส่ายหัวแล้วเธอก็ตอบกลับมาว่า พี่มะลิบอกว่าจะพาหนูไปเล่นด้วยถ้าหนูทำตัวดีๆแล้วอยู่แต่ในห้องนี้ เธอจะพาหนูไปอยู่กับเธอ ได้ฟังดังนั้นคุณแอนไม่ได้รู้สึกว่ามันมีอะไรแปลก จนเมื่อน้องออยพูดต่อ ประโยคนั้นทำให้คุณแอนถึงกับสะดุ้งรู้ไหมว่าพี่มะลิเขาตายแล้วนะ แอนบอกว่าตอนนั้นเธอรู้สึกตัวชาไปหมดไม่คิดว่าน้องออยจะพูดอะไรแบบนั้นออกมา

พูดอะไรนะน้องออยอย่ามาล้อเล่นกับป้านะ ยิ่งเป็นคนขี้กลัวอยู่ตอนนั้นคุณแอนยอมรับว่ารู้สึกหัวเสียมาก ที่น้องออยพูดออกมาอย่างนั้นเพราะเธอเองก็ไม่เชื่อ คนที่น้องออยบอกว่าตายไปแล้วนั้นเป็นคนเดียวกับที่คอยดูแลเธอตลอดในช่วงที่พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้แต่น้องออยเองก็ยังยืนยันว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นเป็นความจริง เธอยังบอกกับคุณแอนว่า พี่เขายังไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง เมื่อได้ยินดังนั้นคุณแอนจึงถามกับน้องออยไปด้วยอารมณ์ประชดประชันว่า แล้วที่หนูรู้ว่าพี่เขาเป็นผี ตัวเองก็เป็นผีด้วยหรือไง น้องออยหันกลับมายิ้มให้พร้อมกับพูดเบาๆว่า แล้วก็แอบคิดว่ายังไงล่ะคะ ประโยคนั้นทำให้คุณแอนขนลุกสู้อีกครั้ง ตอนนั้นเธอแทบไม่เชื่อหูตัวเอง  เพราะน้องออยมีเนื้อหนังจริงๆ เธอจะคิดว่าน้องออยคงแกล้งอำเธอเล่น ในช่วงหัวค่ำของวัน ก็มีนางพยาบาลเข้ามาตรวจตามปกติลุงมั่นเองก็กลับเข้ามาแล้วคุณแอนจึงรู้สึกอุ่นใจและนอนพักเอาแรง..

    ภาพโดยsasint จากhttps://pixabay.com/th/photos/1807543/

จะว่าพรุ่งนี้แผลที่ผ่าตัดคงจะดีขึ้น ในขณะที่เธอนอนได้สักพัก เธอเองก็รู้สึกว่าตัวเองแข็งทื่อเหมือนมีคนมากดทับร่างเอาไว้ เธอรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งเพราะเสียงของน้องออยร้องให้เธอช่วย ตอนนั้นน่าจะเป็นเวลา 21:00 น คุณแอนบอกว่า เธอไม่สามารถขยับหรือเคลื่อนไหวได้เลย เธอเห็นเพียงน้องออยที่นอนอยู่เตียงข้างๆ แต่ไม่รู้ว่าเธอเป็นอย่างไรบ้างในตอนนี้ จนเสียงเปิดประตูห้องดังขึ้นอีกครั้ง แสงนีออนสาดเข้ามาในห้องเป็นทางยาวผ่านมาถึงเตียงของคุณแอน ในตอนนั้น นอนหงายอยู่แต่เธอพยายาม หันหน้าไปหาน้อง ออย เธอ เห็นน้องออยร้องไห้มองหน้าเธอด้วยอาการตัวสั่น เด็กน้อยนอนตะแคงตัวมาทางเตียงของคุณแอนและหันหลังให้กับประตู ปากของน้องออยพยายามพูดออกมาเป็นคำๆ แบบกระซิบกระซาบอาการคล้ายกับว่ากลัวใครจะได้ยินซึ่งคุณแอนเองก็ต้องใช้เวลาสักครู่ใหญ่กว่าจะเดาคำที่น้องออยพูดออกทั้งหมด น้องออยพยายามบอกกับคุณแอนว่าช่วยหนูหิวหนูอยากกลับบ้าน พวกเขาไม่ยอมให้หนูไปไหนหนูกลัว เท่านั้นแหละคุณแอนถึงจะขนลุกชันไปทั้งแขน     

เธอพูดอะไรไม่ออกในตอนนั้นได้แต่พยายามขยับตัวเธอบอกว่าตอนนั้น เห็นเพียงหน้าของหนูน้อยที่นอนอยู่บนเตียง ซึ่งด้านหลังของน้องออยคือมะลิที่ใส่ชุดพยาบาลสีขาวยืนมองน้องออยอยู่ ตอนนั้นคุณแอนบอกว่าเธอสั่นไปทั้งตัวทำอะไรไม่ถูก บรรยากาศในห้องก็เย็นๆและมีกลิ่นธูปคละคลุ้งไปหมด คุณแอนเล่าต่อไปว่าจู่ๆเธอก็กลับมาขยับตัวได้ อีกครั้งเพราะมีมือหนักๆของใครบางคนตบเบาๆและรูปที่ศรีษะของเธอไปมา คุณแอนเห็นลุงนั่นมายืนอยู่ข้างเตียงของเธอ แต่สายตาของลุงกำลังมองไปที่เตียงของน้องออย สีหน้ามุ่งมั่นดูตกใจมากราวกับว่าลุงเองเพิ่งสังเกตเห็นเด็กคนนี้ คุณแอนเองก็บอกว่าตอนนั้นเธอขยับตัวลำบากมาก นิดๆหน่อยๆก็จะเจ็บที่แผล จากนั้นหลุมมันจึงเดินไปที่เตียงของน้องออยโดยที่คุณแอนเองก็ได้พูดขอให้ลุงมั่นช่วยน้องออยด้วย อุ้มน้องออยขึ้นมาจากเตียงก่อนจะพูดออกไปว่า จะไม่ยุ่งกับเด็กมันเลยคน ตายไปแล้วก็อยู่ส่วนคนตายจะนะ แล้วทุกอย่างก็สงบลง คุณแอนส่วนน้องออยที่กึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ ในตอนนี้ก็พูดออกมาเป็นเสียงมันอ่อนๆ เธอบอกว่า พี่มะลิกลัวว่าหนูจะเหงาก็เลยอาสามาอยู่เฝ้า เพราะพี่เขาทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับหนู..

   ภาพโดย1662222 จากhttps://pixabay.com/th/photos/1802680/

  จนตอนนี้คุณแอนรู้สึกกลัวจนไม่เป็นอันอยู่เฉยๆก็กดกริ่งเรียกพยาบาลเข้ามาในห้อง เมื่อนางพยาบาลคนหนึ่งเดินเข้ามา เธอดูแปลกใจมากที่เห็นน้องออยอยู่ในโรงพยาบาลแห่งนี้ รุ่งเช้าคุณแอนได้ย้ายห้องไปอยู่ห้องเดี่ยวตามที่เคยขอไว้กับโรงพยาบาล สถานพยาบาลหลายคนที่เข้ามา มาตรวจร่างกายเธอหลังจากย้ายห้องเธอจึงได้รู้ว่ามีตำรวจมาที่โรงพยาบาลพร้อมทั้งพ่อและแม่ของน้องออยด้วยพ่อและแม่ของน้องออยออกตามหาลูกสาวตลอด 3 วันที่ผ่านมาจนไม่ได้หลับได้นอน พวก เขาบอกว่าได้พาน้องออยมารักษาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ แต่พอตอนจะกลับ ก็หาตัวน้องออยไม่เจออีกเลย จนวันหนึ่ง นี้ อยู่ๆก็ได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลว่าพบน้องออยอยู่ในห้องผู้ป่วย สภาพของน้องออยตอนนั้นอิดโรยมากเธอไม่ได้กินข้าวเลยตลอดหลายวันที่หายตัวไป ทางโรงพยาบาลเองก็ไม่ทราบว่าน้องโออยู่ที่ไหน  เพราะทั้งหมอทั้งพยาบาลเองก็ไม่มีใครเห็นเด็กคนนี้เลยตลอด 3 วันที่ผ่านมา ในตอนนั้นก็รู้สึกว่าใจตุ้มๆต่อมๆ เธอชั่งใจอยู่นานก่อนจะรวบรวมความกล้า แล้วถามนางพยาบาลที่กำลังตรวจสายน้ำเกลือให้กับคุณแอนอยู่ในตอนนี้ว่า โรงพยาบาลนี้มีพยาบาลที่ชื่อมะลิไหมคะ นางพยาบาลคนนั้นถึงกับตกใจในสิ่งที่คุณแอนถาม นางพยาบาลตอบคุณแอนไปแบบเสียงสั้นๆว่าไม่ทราบว่าคุณแอนไปทราบเรื่องอะไรมานะคะแต่คุณมะลิเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตไปได้ 7 วันแล้วค่ะคำตอบนั้นทำให้คุณแอนถึงกับตกใจจนตัวสั่น ที่ผ่านมาคนที่เธอเห็นอยู่ตลอดนั้นก็คือมะลิที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ของตนอยู่ตลอด แม้ว่าตัวเองจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม 

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์