อื่นๆ

เรื่องเล่า : ห้องพัก 403

408
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เรื่องเล่า : ห้องพัก 403

เรื่องเล่า : ห้องพัก 403

ขอบคุณภาพจาก https://pixabay.com/th/photos/ทางเดิน-มืด-มืดมน-เหมือนผี-สูญหาย-776297/ ขอบคุณภาพจาก https://pixabay.com
ทุกๆช่วงก่อนมหาวิทยาลัยจะปิดเทอมพวกเรามักจะนัดกันไปเที่ยวต่างจังหวัดกันเสมอ ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกลับบ้าน เพื่อนบางคนกลับบ้านต่างจังหวัด บางคนบ้านไม่ได้อยู่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ทุกๆปิดเทอมใหญ่พวกเราต้องมีตารางเทียวกันตลอด และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่พวกเราตกลงไปเที่ยวกันที่ จังหวัดยะลา...

การเดินทาง backpack ทั้งนี้ได้เริ่มต้นขึ้น ผมและเพื่อนๆอีก 4 คนเดินทางลงใต้โดยจุดเริ่มต้นของเราคือ สุราษฎร์ธานี ปลายทางคือ ยะลา ระหว่างทางทุกคนสนุกนานกันมาก มีทั้งเสียงหัวเราะ เสียงดนตรี และเสียงธรรมชาติ โดยไม่ได้คาดคิดเลยว่า พวกเรากำลังจะเจอกับเรื่องหลอนที่จะจำไปจนวันตาย...

เวลาเกือบจะ 6 โมงเย็นแล้ว พวกเรามาถึงจังหวัดยะลา ทุกคนรีบร้อนไปถ่ายรูปตามสถานที่ท่องเที่ยวและเมืองเก่าๆของจังหวัดยะลา ก่อนที่แสงจากพระอาทิตย์จะหมดลงเสียก่อน ทำให้ทุกคนลืมคิดเรื่องที่พักสำหรับคืนนี้เลย ในขณะที่กำลังถ่ายรูปในงานรถเก่าอยู่นั้น คุณยายแก่ๆท่านหนึ่งได้เดินมาชนผม ผมรีบขอโทษและพยุงตัวคุณยายขึ้นมา ก่อนที่จะถามคุณยายว่า เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ไม่ทันได้จบประโยค
คุณยายก้มลงกัดแขนผมเป็นแผลใหญ่ ผมกรีดร้องด้วยความเจ็บ ก่อนที่เพื่อนๆจะจับคุณยายแยกออกไป จากนั้นคุณยายก็วิ่งหนีเข้าไปในช่องมืดเล็กๆของตึก จากนั้นเพื่อนๆก็พาผมไปโรงพยาบาลยะลาเพื่อรักษาบาดแผล ระหว่างนั้นชาวบ้านได้เล่าว่า คุณยายแกสติไม่ค่อยดีเกิดจากหลานแกฆ่าหั่นศพน้องตัวเองก่อนที่จะฆ่าตัวตาย เมื่อคุณยายกลับมาถึงบ้าน เจอกับสภาพหลานทั้งสองที่นอนตายเต็มไปด้วยกองเลือด คุณยายเลยสติหลุดจนเป็นบ้าในที่สุด...

Advertisement

Advertisement

ขอบคุณภาพจาก http://www.hogwartsthai.com/magicworld/?2971 http://www.hogwartsthai.com/magicworld/?2971

เมื่อพวกผมออกจากโรงพยาบาลเวลาก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว พวกผมเลยรีบหาห้องพักโดยเร็วที่สุด แต่ด้วยเวลาที่ดึกมาแล้วจึงไม่มีห้องเปิดให้บริการแล้ว จนได้กระทั้งไปเจอกับโรงแรมเก่าๆที่ตั้งอยู่ท้ายซอย เมื่อพวกผมเข้าไปสอบถามปรากฏว่า ยังมีห้องว่างอยู่แต่เป็นห้องชั้นบนสุดชั้น 4 ไม่มีลิฟท์ และเป็นห้องมุมสุดคือ ห้อง 403 ในใจก็อยากไปสอบถามโรงแรมอื่นแต่ด้วยเวลาที่ดึกมากแล้ว จึงตัดสินใจเข้าพักที่โรงแรมเก่านั้นทันทีและด้วยราคาที่ถูกมาก

เมื่อเปิดกระตูห้องเข้าไป กินเหม็นอับในห้องพุ่งมากระแทกหน้าทันที เหมือนกับว่าห้องนี้ทุกปิดมานาน ทุกคนเดินทิ้งตัวนอนบนเตียงโดยไม่ได้เปลี่ยนชุด อาบน้ำ แต่อย่างใด จนเวลาประมาณตี 2 ผมได้ยินเสียงเพื่อนผมคนหนึ่งกำลังใช้มือเคาะผนังห้อง ก็อกๆ พร้อมกับเสียงพึมพา เหมือนกับว่าเค้ากำลังพยายามสื่อสารกับใครบางคนอยู่ ด้วยความที่ผมง่วงนอนมากจึงคิดว่าเพื่อนคงละเมอไปเอง จนกระทั้งเพื่อนอีกคนลุกขึ้นดึงเชือกผูกรองเท้าเพื่อมารัดคอตัวเอง " กุจะฆ่ามึง มึงต้องตาย !!! " เสียงเพื่อนตะโกน ผมและเพื่อนพยายามดึงห้ามสุดแรง จนเพื่อนกระเด็นและรู้สึกตัว ส่วนเพื่อนอีกคนก็หยุดเคาะผนัง แล้วหันกลับมาถามว่า เกิดอะไรขึ้น

Advertisement

Advertisement

ขอบคุณภาพจาก https://pixabay.com/th/photos/สีดำและสีขาว-น่าขนลุก-ผี-มือ-2603731/ ขอบคุณภาพจาก https://pixabay.com/

ทุกคนรู้ทันทีเลยว่า พวกเราถูกผีสิงและห้องนี้ต้องมีสิ่งพิศวงแน่นอน จึงตัดสินใจเก็บของออกจากห้องกลางดึกทันที แต่ในขณะที่ทุกคนเร่งรีบเก็บข้าวของอยู่นั้น เสียงพึมพำก็ดังขึ้นจากเดพานห้อง เมื่อทุกคนหันไปมองตามเสียงก็พบว่า มีชิ้นส่วนของมนุษย์ถูกแขวนอยู่บนเพดานเต็มไปหมด พร้อมกับมีบางอย่างคลานออกมาจากเพดานห้อง ดวงตาที่ดำลึกและปากที่กว้างถึงใบหู " กูจะฆ่ามึง !!! "

ขอบคุณภาพจาก https://pixabay.com/th/photos/ปราสาท-ลึกลับ-ผี-เหมือนผี-2833088/ ขอบคุณภาพจาก https://pixabay.com

ทุกคนกรีดร้องพยายามหนีออกจากห้องแห่งนั้นโดยไม่คิดชีวิต ระหว่างทางหนีลงบันได ตัวห้องและโรงแรมเริ่มเปลี่ยนสภาพเป็นตึกร้างต่อหน้าต่อตา กลายเป็นซากอาคารที่ถูกร้างมานานแล้ว พวกผมจึงรีบหนีสุดชีวิตจนกระทั้งออกมาอยู่ตรงหน้าโรงแรม เมื่อมองกลับไปพบว่าโรงแรมนั้นร้าง เห็นเป็นเงาดำๆคลายคน วิ่งไปวิ่งมาตามประตูหน้าต่าง พวกเราถูกผีหลอกและบังตาจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด

Advertisement

Advertisement

จากนั้นพวกผมจึงตัดสินใจเดินทางไปพักที่วัดใกล้ๆ และได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับหลวงพ่อฟัง จนมารู้ความจริงจากหลวงพ่อว่า โรงแรมนั้นร้างมานานแล้ว ด้วยเหตุที่มี 2 พี่น้องอยู่กับยายฆ่ากันตายในห้องพัก ส่วนยายแกหลังจากเกิดเหตุก็เสียสติจนกลายเป็นคนบ้า ไม่นานโรงแรมก็มีเรื่องหลอนๆเกิดขึ้นจนไม่มีใครกล้ามาพักที่นั้นอีกเลย...

วันรุ่งขึ้นทุกคนรีบลาหลวงพ่อเพื่อเดินทางกลับบ้าน โดยไม่มีใครกล้าพูดเรื่องนี้อีกเลย หลังจากนั้นเป็นต้นมา พวกเราก็ไม่มีใครกล้าออกไปเที่ยวต่างจังหวัดอีกเลย...


คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์