รีวิวหนังสือ การเจอเรื่องแย่ๆไม่ได้แปลว่าชีวิตจะไม่มีความสุข

เชื่อว่าหลายคนคงเคยมีความรู้สึกว่าเมื่อไหร่จะผ่านพ้นภาวะแบบนี้ไปซะที แต่สุดท้ายชีวิตก็จะผ่าน ณ จุดนั้นไปได้ ไม่ว่าผลลัพธ์นั้นจะเป็นไปอย่างที่เราต้องการหรือไม่ก็ตาม เราก็ผ่านมันไปได้อยู่ดี และทุกครั้งที่ผ่านไป เรากลับมาทบทวนตัวเองอีกครั้งก็จะพบว่าเราเติบโตขึ้น ที่แน่ๆเราไม่ใช่คนเดียวที่ต้องเผชิญกับเรื่องเลวร้าย ในเมื่อเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ เราก็คิดเสียว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตก็แล้วกัน

การเจอเรื่องแย่ๆไม่ได้แปลว่าชีวิตจะไม่มีความสุข เป็นหนังสือที่ไม่ได้บอกว่าความทุกข์ที่เกิดขึ้นทำอย่างไรทุกข์ถึงจะหายไป เพียงแต่เป็นการพรรณนาในเชิงเข้าใจความรู้สึกของคนที่มีความทุกข์ ความลำบากใจ โดยเฉพาะเรื่องของความรักความสัมพันธ์

หนังสือเล่มนี้จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ Springbooks โดยผู้แต่งที่ใช้ชื่อนามแฝงว่า บาร์จเฉยๆ เป็นหนังสือหมวดเรียงความสั้นที่ต้องการจะสื่อว่าความสุขเกิดขึ้นได้ แม้วันนั้นจะเป็นวันที่แย่ที่สุดก็ตาม ความทุกข์ไม่ว่ามันจะหนักแค่ไหน ถ้าเราเข้าใจ สุดท้ายมันจะเบาลง ส่วนตัวผู้เขียนเองมองว่าเวลาก็จะเป็นตัวเยียวยาความทุกข์ได้ดีที่สุด

• มันไม่วิธีที่ทำให้ตัวเองดีขึ้นแบบตายตัว แต่การจะมามัวนั่งคิดถึงใครบางคนจนลืมไม่ได้ มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำไปตลอด เราต้องเริ่มต้นใหม่ ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อตัวเราเอง สิ่งที่เราควรแก้ไขไม่ใช่หาวิธีลืม แต่เน้นการหาวิธีทำให้ตัวเองเข้มแข็งและอยู่กับความจริงให้ได้

• คนที่ผ่านมาในชีวิต ไม่ว่าเขาจะยังอยู่หรือหายไป ผู้คนเหล่านั้นย่อมส่งผลต่อชีวิตของเราเสมอ

• เคยหรือไม่...หัวใจเต้นแรงเพียงแค่เห็นหน้าหรือได้ยินชื่อใครบางคน เมื่อเกิดความรู้สึกนี้ขึ้น เรามักลังเลสงสัยว่าควรบอกเขาไปหรือปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ หากเรานิ่งเฉย ไม่ทำอะไรเลยสักอย่าง เราอาจต้องเข้มแข็งเมื่อเห็นเขาไปรักกับคนอื่น สุดท้ายการแอบรักมันไม่ได้ช่วยให้เรามีความสุขเอาเสียเลย ถ้าความรู้สึกที่มีมันยากจะเก็บไว้ก็บอกออกไปเถอะ ไม่แน่เขาอาจจะรู้สึกเหมือนกับเราก็ได้ หรือต่อให้ผิดหวัง มันอาจเจ็บในช่วงแรก แต่ก็คงไม่เจ็บนานเท่าการแอบรักที่ไม่รู้ว่าสุขจริงไหม หรือว่าแท้จริงแล้วอาจเป็นทุกข์ที่ยังไม่สมบูรณ์

• จริงๆแล้วการจะเข้าหาคนคนหนึ่ง มันไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายขนาดนั้น เพราะถ้าเขาเห็นว่าเราเป็นคนที่ใช่ เขาจะดึงเข้าไปในโลกของเขาเอง แต่ถ้าสิ่งที่เราทำอยู่มันเหนื่อย มันท้อ ได้แต่เฝ้าถามว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น ก็อาจจะต้องหยุด เพราะการฝืนความจริง สุดท้ายมันจะเจ็บกว่าเดิม

• เมื่อถึงจุดจบของความรัก เรายังคงใช้ชีวิตต่อไปเหมือนเดิมเพียงแต่ต้องจดจำร่องรอยความทรงจำต่างๆที่เคยสร้างร่วมกัน ชีวิตหลังความเจ็บสอนอะไรเราหลายอย่าง มันทำให้รู้ว่าเราสามารถมีความสุขได้อีกครั้งโดยปราศจากใครบางคนที่เราเคยรักมากที่สุดได้ เราไม่เก่งถึงขนาดลืมใครบางคนได้ แต่ความรักที่ผ่านมามันสอนให้เราอยู่คนเดียวได้อีกครั้ง

• เมื่อก่อนเคยคิดว่าการมีความรักทำให้เราโตขึ้น แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าความผิดหวังต่างหากที่สอนให้เราเติบโต

• การเป็นโสดมันก็ไม่ทำให้กับถึงแก่ความตายหรอก ตรงกันข้ามมันกลับทำให้เราเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง คนส่วนใหญ่มักชอบคิดว่าจะอยู่คนเดียวไม่ได้ แต่ส่วนลึกจริงๆเราก็อยู่คนเดียวมาตลอด เพียงแต่ตอนที่เราโดนบอกเลิก มันเป็นแค่ชั่ววูบหนึ่งของอารมณ์ที่ยังรักตัวเองไม่มากพอเท่านั้น เมื่อเราเข้าใจมัน เราก็จะพบว่า หลังจากอกหักแล้วเราต้องหันกลับมารักตัวเอง

• คนเรากันนั้น เขาจะทำให้เราเชื่อใจ ไม่ปล่อยให้มากังวลหรือไม่สบายใจ ต่างฝ่ายต่างมอบความชัดเจนให้กันและกัน และเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายไม่สบายใจ เขาจะช่วยเราหาทางออกไปพร้อมกัน ไม่ใช่ให้เรามาคิดมากอยู่คนเดียว ถามใจตัวเองว่าตอนนี้เรามีความสุขจริงๆไหม

• การหันหน้าคุยกัน ถือเป็นสิ่งที่ควรทำที่สุด หลังจากที่คนสองคนนั้นเกิดความไม่เข้าใจกัน การหาเหตุผลเข้ามาคุยกันมันอาจจะรู้สึกเหนื่อย กว่าที่ทุกอย่างนั้นจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่มันก็ยังดีกว่าเลิกกันโดยที่ไม่ได้คุยกันเลย แค่เปิดใจเอาเหตุผลอยู่เหนืออารมณ์ พยายามให้รักครั้งนี้กลับมาเป็นเหมือนเดิม เพียงเท่านี้ ความรักมันก็จะกลับมาสมบูรณ์ได้อีกครั้ง

เราทะเลาะกันเพื่อให้เข้าใจกันมากขึ้น

ไม่ใช่ทะเลาะเพื่อจะหาเรื่องเลิกกัน

อย่าให้ความรักที่สร้างไว้พังลง

เพราะอารมณ์ชั่ววูบเพียงไม่กี่นาที

• บางครั้งกำลังใจก็มาในหลายรูปแบบแอบซ่อนอยู่ในหลายประโยค ไม่ว่าจะประโยคไหน ขอให้รู้ไว้ เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว เมื่อรู้สึกไม่สบายใจต้องมีใครสักคนที่เข้ามาทำให้เรารู้ว่าโลกนี้ยังน่าอยู่ (หาให้เจอนะ...คนคนนั้น)

• เมื่อเราโตขึ้น กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญเสมอ และเมื่อเราสามารถให้กำลังใจใครสักคน คนคนนั้นก็จะสร้างกำลังใจเพื่อส่งต่อให้ใครอีกหลายคนได้

• จริงๆแล้วสิ่งที่ทำให้เราเจ็บปวดไม่ใช่การหมดรักของใครบางคนหรอก การให้ความรู้สึกกับคนคนหนึ่งมากเกินไปจนคนคนนั้นกลายเป็นคนสำคัญที่เราลืมไม่ได้ต่างหากที่ทำให้เราเจ็บปวดที่สุด

• บางความสัมพันธ์แม้อยู่ในรูปแบบของความไม่ชัดเจน แต่เพราะตกหลุมรักเขาไปแล้วจึงทำให้เราหลงคิดไปว่านี่คือความสุข แต่หากวันหนึ่งเราเผลอใจรู้สึกมากไป ความสัมพันธ์ที่ไม่มีสถานะนี้อาจทำร้ายเราจนไม่กล้ารักใครอีกเลย ก่อนจะตัดสินใจเข้าไปอยู่ในชีวิตใครควรดูให้ดีก่อนว่าสิ่งที่เขากำลังมอบให้เรานั้นคือความรักที่ชัดเจนหรือเป็นเพียงความสัมพันธ์เพื่อคั่นเวลาเท่านั้น

• เมื่อก่อนคิดว่าการพยายามอย่างที่สุดจะได้ความรักกลับมา แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าการพยายามมากไปไม่ได้แปลว่าจะได้ใจกลับมาเสมอ

นี่คือบางส่วนของแนวคิดที่ได้ภายในเล่ม ความรู้สึกของผู้เขียนหลังจากอ่านจบก็คือเป็นการปลอมประโลบใจผู้อ่านพร้อมกับให้แง่คิดเตือนใจเราไปด้วยในลักษณะที่เป็นกันเองด้วยฐานะที่เคยเป็นผู้เคยอาบน้ำร้อนมาก่อน เนื้อหาอ่านง่าย หน้ากระดาษแผ่นหนึ่งไม่มีตัวหนังสือแน่นจนเกินไป อ่านไม่นานก็จบเล่มได้แล้ว ถือเป็นหนังสือไว้อ่านเล่นยามว่างแถมได้ข้อคิดสำคัญๆที่กระตุกจิตกระชากใจอีกด้วย ใครที่ชอบหนังสือแนวนี้แล้วละก็ลองหาซื้ออ่านดูได้ครับ

เครดิตภาพ

• ภาพปก โดย Mohamed Nohassi จาก Unsplash.com
• ภาพที่ 1 และ 2 โดยผู้เขียน
• ภาพที่ 3 โดย Priscilla Du Preez จาก Unsplash.com 
• ภาพที่ 4 โดย Aziz Acharki จาก Unsplash.com
• ภาพที่ 5 โดย Oziel Gómez จาก Unsplash.com

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

• TrueID In-Trend แหล่งสร้างคอนเทนต์หารายได้เสริมช่วงโควิด-19
• รีวิวหนังสือ THE ART OF LAZINESS
• รีวิวหนังสือ จงรักในความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเอง
• รีวิวหนังสือ ตอบปัญหาวิชาใจ
• วิธีการดูดวงเลข 7 ตัว 4 ฐาน

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !